JK เที่ยวแพชัยมารีน จังหวัดกาญจนบุรี

นานๆ ทีจะได้มีโอกาสออกไปขี่รถเล่นต่างจังหวัด เพราะติดโควิด-19 มานานหลายเดือน พอออกไปเที่ยวได้ ทริปแรกของเราก็คือจังหวัดกาญจนบุรี กับการนอนบนแพเป็นครั้งแรกในชีวิต

นัดพบกันที่ปั๊ม ปตท. แห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม เพื่อรวบรวมคนก่อนเดินทางไปยังจังหวัดกาญจนบุรี

ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่อไปจังหวัดกาญจนบุรีมุ่งหน้าไปที่ แพชัยมารีน โดยเราต้องไปที่ท่าขนานยนต์ชื่อ ท่าองสิต ตาม Map ที่ได้ปักไว้ให้ด้านล่าง

ภาพของแพขนานยนต์ที่ใช้ข้ามไปอีกฝั่ง บอกเลยว่าห้องน้ำค่อนข้างสกปรกไม่สะอาดและประตูล๊อกห้องน้ำไม่ค่อยดี ถ้าปิดไม่ดีอาจจะโดนคนอื่นเปิดเอาได้ง่าย ๆ เลย

ลำเลียงรถ และรอเดินทางข้ามไปอีกฝั่ง ทั้งที่ไม่ไกลแต่ก็ใช้เวลาเกือบ 20 นาที บนเรือมีล๊อตเตอร์รี่ขาย มีน้ำอาหาร ลูกชิ้นไม่ต้องกลัวหิว ของขายเยอะหลากหลาย นั่งชิวๆ ดูธรรมชาติกินอะไรไประหว่างรอข้ามฝั่ง

บรรยากาศเมื่อมองออกไปจากแพขนานยนต์ ชั่งสวยงามจริง ๆ กับบรรยากาศตอนเช้า ๆ

ทริปนี้ขี่เจ้า R1200 มา บอกเลยสบายมาก ๆ ความเร็วก็ไม่ต้องใช้เยอะ แต่ช่วงล่างดีสุด ๆ นิ่ม ๆ สบายเลยในการเดินทาง

สภาพเมื่อข้ามแพขนานยนต์แล้วกำลังจะไปลงแพ เพื่อเดินทางต่ออีกไม่ไกลไปลงแพ

ตำแหน่งที่ตั้ง Google Map ของแพชัยมารีน เพื่อทำการขึ้นแพ

ขนของ ขนอาหาร และน้ำมันลงเรือ ร่วมด้วยช่วยกัน เพราะของเยอะมาก ๆ โดยเราไม่มีมาแต่รถมอเตอร์ไซต์แต่ยังมีรถกระบะเพื่อใช้ขนของอีกด้วย

บรรยากาศในการล่องแพ เพื่อไปนอนในเขื่อน
เรือลำน้อย ๆ กำลังลากไปอย่างช้า ๆ

เรือลากลำเล็กมาก ๆ คอยลากแพขนาดใหญ่ที่เสมือนบ้านลอยน้ำไปยังตำแหน่งที่จอด ใช้เวลาพักใหญ่ ๆ ไปแบบช้ามาก ๆ ระหว่างที่ลากไปก็คงไม่พ้นเข้าดลกออนไลน์เช็ค Facebook อัปเดตสเตตัสกันต่างๆ โพสรูปที่ถ่าย ๆ กันมาอย่างสนุกสนาน

นี้คือชั้นล่างที่เอาไว้กินข้าว ทำสันทนาการต่าง ๆ ได้ตามใจเราเลย

เมื่อได้กินข้าวกลางวันแล้วก็ลงเล่นน้ำกับเพื่อน ๆ ในเขื่อ น้ำลึกหน้าดูเลย ต่อให้กระโดดจากแพ ขาก็ไม่เคยถึงพื้น และเวลาจะเดินกลับแพก็ดูยากลำบากถ้าไม่ใส่รองเท้า เพราะพื้นเต็มไปด้วยหินกรวด หรือดินที่ค่อนข้างนิ่มทำให้เท้าอาจจะรู้สึกไม่ค่อยดี ไม่สบายเท้า

บรรยากาศตอนกลางคืน เริ่มจะมืดแล้ว พอมืดแล้วเท่านั้นแหละ อะไรๆ ก็ดูหน้ากลัวไปซะหมด มันมืดจริง ๆจนมองเห็นดาวบนฟ้าได้ชัดแจ๋ว

สิ่งหนึ่งที่อยากมองข้ามไปบ้างคือเรื่องของที่พัก ที่เตียงนอนเป็นฟูกแข็งๆ เหมือนมานอนเข้าค่ายลูกเสือ ด้านบนมี 8 ห้องนอน ก็แบ่ง ๆ กันนอนไป ทุกห้องมีแอร์เย็นอยู่ แต่เสียงของเครื่องปั่นไฟค่อนข้างเสียงดัง ถ้าไม่เมาจริงๆ คงนอนไม่หลับ เพราะมันดังเหลือเกิน แนะนำว่าใครที่จะมาเที่ยวแพควรตกลงกับเจ้าของแพดี ๆ ว่าจะซื้ออาหารมาเอง หรือซื้อน้ำมันมาเอง เพราะทุกอย่างบนนี้ถ้าขาดอะไรไปต้องโทรแจ้งเจ้าของเรือแล้วเค้าจะขับเรือลำเล็ก ๆ มาซึ่งคิดค่าบริการค่อนข้างแพงอยู่ เป็นไปได้แนะนำให้เตรียมมาให้ครบจะดีกว่าครับ

มุมนี้สวยมาก ๆ เห็นเมฆอยู่บนสันเขา

บรรยากาศตอนเช้าออกมาจิบกาแฟแก้ง่วงและมองบรรยากาศรอบๆ ตัวอากาศไม่ร้อนเลย ส่วนใหญ่แพลำอื่น ๆ จะมาตกปลากัน แต่ไม่รู้ว่ามีใครได้ปลากลับไปทำอาหารบ้าง ชอบจริงๆ บรรยากาศบนเขื่อนมันชิวมากๆ ชิวจนสโลไลฟ์ เหมือนไม่มีอะไรทำ ถ้าไม่เปิดเพลงละก็ เล่าเรื่องผีสยองขวัญแน่นอน

เก็บภาพความประทับใจก่อนกลับบ้าน ถ่ายรูปหมู่

ต่อจากนั้นเราก็เดินทางกลับตามเส้นทางเดิมทุกประการ รถค่อนข้างเยอะและติดเป็นอย่างมาก ดีนะที่ขับมอเตอร์ไซต์เลยใช้เวลาเดินทางกลับ กรุงเทพฯ ไม่นานประมาณ 3 ชั่วโมง มีคนมาออกทริปจำนวนมาก

ร้านครัวเคียงน้ำ (บ้านสวนปียวรรณ)

ร้านอาหาร ครัวเคียงน้ำ 1

เมื่อวันแม่มีโอกาสขับรถอยากพาคุณแม่ไปทานข้าว แต่ปปรากฎว่าร้านเต็มทุกร้านรวมถึงร้าน ครัวเคียงน้ำด้วย เลยหาโอกาสว่าจะมาใหม่ ผ่านไปไม่กี่วันเลยหาโอกาสมาใหม่ครับ โดยได้นั่งเมนูง่าย ๆ เพื่อมาลองเชิงก่อนว่าอร่อยไหมเลยสั่ง แกงคั่วหอยขม ต้มยำกุ้ง ปลานิลทอดน้ำปลา ระหว่างนั่งรออาหารก็นั่งดูปลาเสือพ่นน้ำมันพ่นน้ำไป ซึ่งมีให้เห็นเยอะมาก ๆ ว่ายกันเพียบเลย แถวนี้มีปลาเยอะเพราะว่าร้านอาหารอยู่ตรงข้ามกับวัดโบสถ์ ปลาเลยเยอะเป็นพิเศษ

บรรยากาศที่นั่งทานข้าว อยู่บนโป๊ะ เรียบง่าย
เมื่อมองออกไปด้านนอกร้านจะได้รับชมวิววัดโบสถ์ เห็นองค์พระชัดเจน
ทางเดินเข้าร้าน
ปลาเสือพ่นน้ำจำนวนมาก คอยพ่นน้ำให้ลูกค้าดู

เมนูอาหาร

ตำแหน่งที่ตั้งของครัวเคียงน้ำ

น้ำตกจ๊อกกระดิ่น

น้ำตกจ๊อกกระดิ่น

น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เป็นภาษาพม่า เป็นชื่อเพี้ยนมาจากคำเดิมว่า “ก๊อกกระด่าน” จ๊อก หรือ ก๊อก หมายถึง หิน และกระดิ่น หรือ กระด่าน หมายถึง น้ำตก มีความหมายรวมกันว่า เป็นน้ำตกที่ไหลผ่านซอกหินผา มีแหล่งกำเนิดเป็นน้ำที่ผุดขึ้นมาจากภูเขาอีปู่ ตั้งอยู่ในพื้นที่เหลืองแร่ทังสเตน ไหลผ่านหมู่บ้าน ความสูงของน้ำตกประมาณ 34 เมตร และมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร บุคคลที่ได้เล่นน้ำตกแห่งนี้เปรียบเหมือนได้อาบน้ำแร่ไปในตัว

อัตราค่าบริการผ่านเข้าอุทยานแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

ค่าบริการ สำหรับบุคคล

ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

ค่าบริการสำหรับยานพาหนะ

รถจักรยานยนต์ 20 บาท รถยนต์นั่งส่วนบุคคล 30 บาท รถยนต์บรรทุกไม่เกิน 1 ตัน 30 บาท รถยนต์โดยสารขนาดไม่เกิน 12 ที่นั่ง 30 บาท

ค่าบริการกางเต็นท์ 30 บาท

GSA 1200 เที่ยวทองผาภูมิ

ทองผาภูมิอาจจะอยู่ไกลจากตัวเมืองกาญ แต่บอกได้เลยว่าเส้นทางที่ขับไป ไม่ต่างจากการขับรถเล่นในภาคเหนือเลย เพราะธรรมชาติเต็ม 2 ข้างทอง อากาศสบาย ๆ ไม่ร้อน โดยเส้นทางที่เราตั้งใจจะไปคือหมู่บ้านปิล๊อก ที่แสนห่างไกลและมีเสน่ห์

ป้ายไม้เขียนข้อความ บนสะพานในหมู่บ้านอีต่อง

เขียนป้ายไม้แล้วแขวนบนสะพานอีก 1 ไฮไลท์ที่สำคัญที่ใครไปก็ต้องเขียน พลาดไม่ได้!!

JK ADMIN
ห้องนอนใต้หลังคาในที่พักสุดชิค ที่เราแวะไปนอน 1 คืน อากาศหนาวสุด ๆ ห้องน้ำไม่มีในตัว

ช่วงที่ JK จองที่พักส่วนมากเต็ม จะได้ที่นอนเป็นเต๊นท์ซึ่งอาจจะไม่ใช่ทางของเรา เลยหาที่พักที่ใกล้หมู่บ้านที่สุด แต่ที่พักที่ได้เป็นห้องใต้หลังคาที่ไม่มีหน้าต่างมองออกไปด้านนอกเลย มีอะไรก็วางๆ ไว้บนพื้น เพราะพื้นที่ค่อนข้างคับแคบ

อาหารเช้าข้าวต้มทรงเครื่อง

JK ADMIN

ตอนเช้าเราเพิ่มพลังด้วยข้าวต้มสุดอร่อย ที่เติมกี่รอบก็ได้ เป็นหม้อให้ตักเอง พร้อมเครื่องปรุงที่ให้เราหยิบไปปรุงกันตามสบาย