ร้านกลุ่มผ้าทอมือบ้านหนองขาว จ.กาญจนบุรี

ที่ตั้ง ชุมชนชาวหนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
๑.ชื่อยี่ห้อ/แบรนด์ ผ้าขาวม้าร้อยสีบ้านหนองขาว
๒.ชื่อผู้ประกอบการ กลุ่มผ้าทอมือบ้านหนองขาว
๓.ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น
๓.๑ ชื่อผลิตภัณฑ์ ผ้าขาวม้าร้อยสีบ้านหนองขาว
รายละเอียดความโดดเด่น สั้นๆ
ผ้าขาวม้าร้อยสี ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของชุมชนชาวหนองขาว เกิดจากการร่วมมือร่วมใจถักทอขึ้นด้วยวิธีการทอกี่กระตุก ซึ่งเป็นวิธีการทอผ้าแบบโบราณ ใช้มือในการกระตุกคันกระตุก ที่มีการถักทออย่างประณีต นิยมใช้ด้ายสีต่าง ๆ กว่า 100 สี ในการถักทอ ทำให้เกิดความวิจิตรงดงามบนลายผ้าที่โดดเด่น อีกทั้งผ้าขาวม้าในชุมชนยังมีสีสดใส ลวดลายแปลกตา เนื้อผ้าเป็นมันวาวคล้ายผ้าไหม  ดูแลรักษาง่าย ทนทาน สีไม่ตก สามารถใช้งานได้ยาวนาน
๔.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00 -18.00 น.
๕.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
0 3458 6061
08 9612 2553 (คุณอารีย์รัตน์)
๖.ช่องทางออนไลน์
– Facebook : ผ้าขาวม้าร้อยสี อารีย์รัตน์ บ้านหนองขาว

เดชทศพักตร์การอาหาร กาญจนบุรี

ที่ตั้ง 19/235 ถนน ไชยชุมพล ซอย 1 ตำบล บ้านใต้ อำเภอเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรี 71000
๑.ความโดดเด่น/ความสำคัญ
“ครัวต้นแม่กลอง หรือ แพห้อยขาพาชิล หรือ เดชทศพักตร์การอาหาร ซึ่งทั้ง 3 ชื่อที่เอ่ยมานั้นคือร้านเดียวกัน ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณน่านน้ำที่กว้าง ซึ่งเป็นจุดรวมกันของแม่น้ำ 2 สายคือแม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควใหญ่ จนกลายเป็นแม่ต้นน้ำแม่กลองจึงทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยที่สุดก็ว่าได้ ส่วนบรรยากาศภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่าย เป็นสไตล์ร้านอาหารบนเรือนแพ แบ่งโซนที่นั่งออกเป็น 2 โซนด้วยกันคือ โซนอินดอร์เหมาะสำหรับช่วงกลางวัน และโซนเอ้าท์ดอร์ ที่ออกแบบให้เป็นที่นั่งแบบห้อยขา จุ่มน้ำกันแบบชิลล์ๆ และนอกจากโซนที่นั่งห้อยขา จุ่มน้ำแล้ว ที่ร้านยังมีเปอาหารลตาขายให้คุณได้ทิ้งตัวโพสต์ท่าเก๋ๆ ระหว่างรออาหารกันจนเมมเต็มทีเดียว สำหรับเมนูแนะนำก็มีให้เลือกสั่งหลายรายการไม่ว่าจะเป็น แกงคั่วหอยขม, ยำถั่วพลู, น้ำพริกปลาย่าง เสิร์ฟคู่ผักเคียง และปลากระพงทอดราดน้ำปลา แกงป่าปลาคัง อาหารรสชาติดี ราคากลางๆ และที่สำคัญวิวดี
2.เมนูเด่น/เมนูแนะนำ
2.1 แกงคั่วหอยขม
2.2 ยำถั่วพลู
2.3 ปลากระพงทอดราดน้ำปลา
3.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของร้าน
ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. (ครัวปิด 20.30 น.)
๔.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
08 1587 5159, 08 1815 0230 (สําหรับชาวต่างชาติ)
๕.ช่องทางออนไลน์
– Facebook : เดชทศพักตร์การอาหาร Dejtosapak Restaurant แพห้อยขาพาชิล

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ไร่คุณชาย จ.กาญจนบุรี

ที่ตั้ง ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
๑.ความโดดเด่น/ความสำคัญ
ไร่คุณชาย น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่9 มาใช้ในการทำการเกษตร ปัจจุบันนอกจากการปลูกเพื่อรับประทานและออกขายออกสู่ตลาดแล้ว ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมาเข้าชมสวนผลไม้ทั้งเงาะ ทุเรียน ส้มโอ ฝรั่ง กล้วยไข่ และอื่น ๆ ที่เน้นลักษณะเกษตรผสมผสาน ที่มุ่งเน้นการผลิตในลักษณะปลอดภัย ได้เลือกซื้อเป็นของฝาก นอกจากนี้ทางไร่คุณชายยังเปิดเป็นสถานที่สำหรับเรียนรู้การทำเกษตรแบบผสมผสาน
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น.
๓.ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว (ช่วงเดือน)
ม.ค.-ธ.ค.
๔.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่างๆ
๕.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
๐๘ ๑๙๘๑ ๗๓๕๕
๖.ช่องทางออนไลน์
๗.สิ่งอำนวยความสะดวก

วัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี

ที่ตั้ง ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง กาญจนบุรี
๑.ความโดดเด่น/ความสำคัญ
วัดถ้ำเสือ เป็นวัดและสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่บนยอดเขาในอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ติดกับวัดถ้ำเขาน้อยซึ่งเป็นวัดจีนตั้งอยู่ด้านหลัง เป็นที่รู้จักสำหรับทิวทัศน์ที่ล้อมรอบด้วยทุ่งนาและประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ หลวงพ่อชินประทานพร ภายในวัดประกอบด้วยอาคารและเจดีย์ สถาปัตยกรรมไทย, จีน, ญี่ปุ่น และผสมผสาน เดิมเป็นสำนักสงฆ์ขนาดเล็กในบริเวณถ้ำเสือด้านล่างริมเนินเขา ต่อมาชาวบ้าน ร่วมกันสร้างและบูรณะ จนกลายเป็นวัดที่ใหญ่โต และมีความวิจิตรงดงาม ด้านหน้าวัดเป็นแม่น้ำแม่กลอง และล้อมรอบด้วยท้องทุ่งนา ส่วนด้านข้างติดกับองค์พระเจดีย์สถาปัตยกรรมจีน และเก๋งจีนของวัดถ้ำเขาน้อย ซึ่งอยู่ติดกัน ทั้งวัดถ้ำเสือและวัดถ้ำเขาน้อยเคยปรากฏเป็นสถานที่ถ่ายทำหลักในมิวสิควิดีโอเพลง Love on Me โดยแกแลนทิส ศิลปินชาวสวีดที่มีชื่อเสียงในระดับสากล ในปี พ.ศ. 2559
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.
๓.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ
๔.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
08 8457 8778
๕.ช่องทางออนไลน์
– Facebook : วัดถ้ำเสือ.หลวงปู่ชื่น จ.กาญจนบุรี
๖.สิ่งอำนวยความสะดวก
/ ห้องน้ำ / ทางลาด / ที่จอดรถ / จุดบริการนักท่องเที่ยว / ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมวัดไชยชุมพลชนะสงคราม จังหวัดกาญจนบุรี

ชุมชนวัดไชยชุมพลชนะสงคราม  เป็นชุมชนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ และมีวัดไชยชุมพลชนะสงคราม หรือชื่อที่ชาวชุมชนเรียกขานอีกนามหนึ่งว่าวัดใต้ เป็นวัดที่เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดกาญจนบุรีวัดหนึ่ง อยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำแม่กลอง

ชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดไชยชุมพลชนะสงคราม  เป็นชุมชนคุณธรรมที่มีพลัง บวร ที่เข้มแข็ง คนในชุมชนมีส่วนร่วมคิดร่วมทำ ยึดมั่นปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางศาสนา  และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาพัฒนาคุณภาพชีวิต  ตลอดจนสืบสานและรักษาวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของชุมชนอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน 

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดไชยชุมพลชนะสงคราม พระอารามหลวง วัดไชยชุมพลชนะสงคราม หรือ วัดใต้ตั้งอยู่เลขที่ถนนไชยชุมพล  ตำบลบ้านใต้  อำเภอเมืองกาญจนบุรี  เป็นวัดพระอารามหลวง สร้างในสมัยกรุงศรี อยุธยาตอนปลายครับ วัดนี้ตั้งอยู่บนริมแม่นํ้าแคว ทางทิศใต้ เป็นวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ระหว่างสงครามไทย รบกับพม่ามาแต่โบราณ  ส่วนมาก ทัพพม่าจะต้องยกทัพมาทางด่านพระเจดีย์  ๓  องค์  ผ่านตรงเข้าจังหวัดกาญจนบุรีแทบทุกครั้งและกองทัพไทย ที่ยกออกไปต่อต้านทัพพม่าก็จะต้องมา พักแรม ประชุมพลที่ตำบลปากแพรก หรือบริเวณอาณาเขตวัดไชยชุมชนะสงคราม  แทบทุกครั้ง 

พิพิธภัณฑ์อักษะเชลยศึกหรือพิพิธภัณฑ์สงครามวัดใต้ พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก มีชื่อภาษาอังกฤษว่า THE JEATH WAR MUSEUM ต่อมาเป็นที่รู้จักกันสำหรับชาวต่างประเทศว่า WAR MUSEUM หรือพิพิธภัณฑ์สงคราม เหตุที่ใช้ชื่ออย่างนี้ เนื่องจากพิพิธภัณฑ์นี้เป็นที่เก็บรวบรวมเอกสาร หลักฐานภาพเขียน ภาพถ่าย ตลอดจนเครื่องใช้สอยต่าง ๆ อันเกี่ยวกับเหตุการณ์สร้างทางรถไฟสายมรณะกาญจนบุรี-พม่า ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2  

ประตูเมืองเก่า ประตูเมืองกาญจนบุรีเป็นประตูเมืองก่ออิฐถือปูน ยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น สร้างในรัชสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2374 เมื่อครั้งย้ายเมืองกาญจนบุรีเก่าจากตำบลลาดหญ้ามาตั้งที่ตำบลปากแพรก เดิมมี 8 ประตู ประกอบด้วย ประตูเมือง 6 ประตูและประตูช่องกุด 2 ประตู ปัจจุบันคงเหลือเฉพาะประตูเมืองด้านหน้าและกำแพงเมืองบางส่วนที่อยู่ติดกันโดยได้มีการบูรณะ เมื่อปี พ.ศ. 2549

สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก หรือ “สุสานทหารสหประชาชาติ” หรือที่ชาวจังหวัดกาญจนบุรีทั่วไปเรียกว่า “ป่าช้าอังกฤษ” เป็นสุสานขนาดใหญ่บนพื้นที่ 17 ไร่ บรรจุศพเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะถึง 6,982 หลุม รัฐบาลไทยและฝ่ายสัมพันธมิตรได้ตกลงกันเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2497 เพื่อสร้างสุสานสองแห่งนี้ขึ้น บรรยากาศในสุสานเงียบสงบและร่มรื่น พื้นที่ภายในได้รับการตกแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม เหนือหลุมฝังศพทุกหลุมมีแผ่นทองเหลืองจารึก ชื่อ อายุ และประเทศของผู้เสียชีวิต บรรทัดสุดท้ายเป็นคำไว้อาลัยที่โศกเศร้า ทุกปีจะมีวันที่รำลึกถึงผู้เสียชีวิตเฉพาะของคนชาติต่าง ๆ

สะพานข้ามแม่น้ำแคว สะพานข้ามแม่น้ำแคว เดิมสร้างขึ้นโดยแรงงานของเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ภายใต้การควบคุมของกองทัพญี่ปุ่น การก่อสร้างใช้เวลาแล้วเสร็จเพียงหนึ่งปี ก่อนจะถูกระเบิดทิ้งทำลายจากกองบินสัมพันธมิตรจนสะพานช่วงกลางพังถล่มลงมา ต่อมาภายหลังสงครามโลกยุติลง รัฐบาลไทยได้ซื้อทางรถไฟนี้ต่อจากอังกฤษ แล้วบูรณะซ่อมแซมขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2489 ความยาวของสะพานทั้งสิ้น 322.90 เมตร

ปัจจุบันสะพานข้ามแม่น้ำแคว ได้กลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพทางจังหวัดกาญจนบุรีได้มีการจัดงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว ประจำปีทุกปี ซึ่งมีการแสดงสีเสียง ย้อนรำลึกถึงสงครามโลกครั้งที่ 2

โรงงานกระดาษไทย กาญจนบุรี โรงกระดาษไทย กาญจนบุรี สถาปัตยกรรมที่ผ่านช่วงประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานกระดาษเปิดดำเนินการในปี พ.ศ. 2481 ซึ่งประเทศไทยได้เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2484 (ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 8) ถือเป็นโรงงานการกระดาษแห่งที่ 2 ของประเทศไทย (ก่อนหน้านี้ ในปี พ.ศ. 2466 ไทยมีโรงงานกระดาษแห่งแรกเปิดดำเนินการที่ตำบลสามเสน กรุงเทพมหานคร) เป็นอาคารทรงทันสมัยในยุคสมัยนั้นเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงสังคมจากเกษตรกรรม เป็นอุตสาหกรรมของกาญจนบุรี

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

หาดทรายชุกโดน หาดทรายชุกโดน ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมืองกาญจนบุรี เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรี มีลักษณะเป็นชายหาดน้ำจืดขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการพักผ่อน ด้วยเพราะโดยรอบชายหาดจะมีที่นั่งไว้สำหรับให้ทุกคนนั่งกินอาหาร ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ ภูเขาและสายน้ำ กิจกรรมท่องเที่ยว มีตั้งแต่ลงเล่นน้ำเย็น ๆ เล่นเครื่องเล่นสนุก  ๆ หรือจะพักผ่อนรับประทานอาหาร ที่นี่ก็เพียบพร้อมด้วยร้านอาหารร้านค้าให้เลือกหลายร้าน

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

แปลงสาธิตการเกษตรวัดไชยชุมพลชนะสงคราม เป็นแปลงสาธิตการทำเกษตรแบบพอเพียง ปลูกพืชผักสวนครัว สำหรับไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภคและเป็นวัตถุดิบในการนำมาปรุงอาหาร เป็นแหล่งเรียนรู้ให้นักเรียน ประชาชนได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้เพื่อนำไปปรับใช้

กิจกรรมการท่องเที่ยว

เล่นน้ำที่หาดทรายชุกโดน หาดทรายชุกโดน พักผ่อนชมความงามทางธรรมชาติ หรือเล่นกิจกรรมกลางแจ้งทางน้ำ มีหลายกิจกรรมให้เลือก เช่น การเล่นสไลเดอร์ พายเรือ เป็นต้น

ชมการแสดงทางศิลปะและวัฒนธรรม ลานแสดงวัฒนธรรม ตลาดไทย ตลาดธรรม ตลาดวัฒนธรรม 
วัดไชยชุมพลชนะสงครามเปิดพื้นที่ลานแสดงวัฒนธรรม ภายในบริเวณวัดติดกับบริเวณ ตลาดไทย ตลาดธรรม เพื่อเปิดโอกาส เด็ก เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ได้มีสถานที่ในการแสดงความสามารถทางศิลปะและวัฒนธรรม ให้นักท่องเที่ยวได้ชม

ชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน จังหวัดกาญจนบุรี

ที่ตั้ง 235 หมู่ที่ 1 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

ชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน เกิดจากความร่วมมือของพลัง “บวร” ที่ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผลประโยชน์ สร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน นำเอาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาเป็นภูมิคุ้มกัน น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิต 

เป็นชุมชนที่ประชาชนยึดหลักศีล ๕ ในการดำเนินงาน นอกจากนี้ ยังเป็นวัดที่มีการจัดกิจกรรมทางด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ที่เป็นเอกลักษณ์พื้นถิ่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย เช่น การจัดงานประจำปีปิดทองรอยพระพุทธบาท และทำบุญอุทิศอดีตเจ้าเมืองหน้าด่าน ๗ หัวเมือง งานอุ้มพระสรงน้ำ   วันสงกรานต์ งานแห่หลวงพ่อทองคำ งานตามประทีปหมื่นดวงเป็นพุทธบูชาในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดท่าขนุน หลักฐานการมีวัดท่าขนุนมาปรากฏชัด เมื่อครั้งที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้า อรประพันธ์รำไพ และพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอดิศัยสุริยาภา สองพระราชธิดาในล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ กับเจ้าจอมมารดาอ่อน เสด็จมาประพาสป่าทองผาภูมิ ทั้งสองพระองค์ได้ทูลขอพระราชทานพระพุทธรูปรัชกาล ขนาดหน้าตักประมาณ ๑ ศอก ๒ องค์ และธรรมาสน์ทรงบุษบกฝีมือช่างหลวง ถอดประกอบได้ทุกชิ้น จากในหลวงรัชกาลที่ ๗ มาถวายแก่หลวงปู่พุก อุตฺตมปาโล อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๒ หลวงปู่พุก อุตฺตมปาโล เป็นพระเถระเชื้อสายมอญ มีสีลาจารวัตรที่งดงาม เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านเป็นอย่างมาก ทั้งสองพระองค์ทราบกิตติศัพท์ จึงเสด็จมานมัสการพร้อมกับถวายสิ่งของพระราชทานดังกล่าวข้างต้น หลวงปู่พุกปกครองดูแลวัดท่าขนุนมาจนถึง พ.ศ. ๒๔๘๙ ก็มรณภาพลง

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

น้ำพุร้อนหินดาด บ้านกุยมั่ง หมู่ 6 ตำบลหินดาด อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีอุณหภูมิความร้อนของน้ำในบ่อประมาณ ๔๕ – ๕๕ องศาเซลเซียส และยังมีแร่ธาตุที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายเราหลายชนิด เช่น แคลเซียม, แมกนีเซียม ประโยชน์ของการอาบน้ำแร่มีสรรพคุณในการรักษาโรคผิวหนัง ทำให้การไหลเวียนของโลหิต แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามข้อ กล้ามเนื้ออักเสบ ปวดกระดูกและเหน็บชา

เขื่อนวชิราลงกรณ์ เดิมมีชื่อว่า เขื่อนเขาแหลม เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทยที่ดาดผิวหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ตั้งอยู่บนแม่น้ำแควน้อย เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ มีวัตถุประสงค์ด้านผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก สร้างปิดกั้นแม่น้ำแควน้อยบริเวณตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

แปลงสาธิตการเกษตรวัดท่าขนุน เป็นแปลงสาธิตการทำเกษตรปลูกพืชผักสวนครัว สำหรับไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภคและเป็นวัตถุดิบในการนำมาปรุงอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวโคโรนา 2019 (COVID-19)

เรือนครูไท เป็นที่พักรูปแบบรีสอร์ท ภายในรีสอร์ทมีสวนผลไม้ซึ่งเป็นของเจ้าของรีสอร์ท เปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้เข้าพักสามารถเยี่ยมชมและรับประทานผลไม้สดตามฤดูกาลจากต้นได้ฟรี หากต้องการผลไม้กลับบ้าน ก็สามารถเลือกซื้อผลไม้สดจากสวนได้เลย

JK เที่ยวแพชัยมารีน จังหวัดกาญจนบุรี

นานๆ ทีจะได้มีโอกาสออกไปขี่รถเล่นต่างจังหวัด เพราะติดโควิด-19 มานานหลายเดือน พอออกไปเที่ยวได้ ทริปแรกของเราก็คือจังหวัดกาญจนบุรี กับการนอนบนแพเป็นครั้งแรกในชีวิต

นัดพบกันที่ปั๊ม ปตท. แห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม เพื่อรวบรวมคนก่อนเดินทางไปยังจังหวัดกาญจนบุรี

ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่อไปจังหวัดกาญจนบุรีมุ่งหน้าไปที่ แพชัยมารีน โดยเราต้องไปที่ท่าขนานยนต์ชื่อ ท่าองสิต ตาม Map ที่ได้ปักไว้ให้ด้านล่าง

ภาพของแพขนานยนต์ที่ใช้ข้ามไปอีกฝั่ง บอกเลยว่าห้องน้ำค่อนข้างสกปรกไม่สะอาดและประตูล๊อกห้องน้ำไม่ค่อยดี ถ้าปิดไม่ดีอาจจะโดนคนอื่นเปิดเอาได้ง่าย ๆ เลย

ลำเลียงรถ และรอเดินทางข้ามไปอีกฝั่ง ทั้งที่ไม่ไกลแต่ก็ใช้เวลาเกือบ 20 นาที บนเรือมีล๊อตเตอร์รี่ขาย มีน้ำอาหาร ลูกชิ้นไม่ต้องกลัวหิว ของขายเยอะหลากหลาย นั่งชิวๆ ดูธรรมชาติกินอะไรไประหว่างรอข้ามฝั่ง

บรรยากาศเมื่อมองออกไปจากแพขนานยนต์ ชั่งสวยงามจริง ๆ กับบรรยากาศตอนเช้า ๆ

ทริปนี้ขี่เจ้า R1200 มา บอกเลยสบายมาก ๆ ความเร็วก็ไม่ต้องใช้เยอะ แต่ช่วงล่างดีสุด ๆ นิ่ม ๆ สบายเลยในการเดินทาง

สภาพเมื่อข้ามแพขนานยนต์แล้วกำลังจะไปลงแพ เพื่อเดินทางต่ออีกไม่ไกลไปลงแพ

ตำแหน่งที่ตั้ง Google Map ของแพชัยมารีน เพื่อทำการขึ้นแพ

ขนของ ขนอาหาร และน้ำมันลงเรือ ร่วมด้วยช่วยกัน เพราะของเยอะมาก ๆ โดยเราไม่มีมาแต่รถมอเตอร์ไซต์แต่ยังมีรถกระบะเพื่อใช้ขนของอีกด้วย

บรรยากาศในการล่องแพ เพื่อไปนอนในเขื่อน
เรือลำน้อย ๆ กำลังลากไปอย่างช้า ๆ

เรือลากลำเล็กมาก ๆ คอยลากแพขนาดใหญ่ที่เสมือนบ้านลอยน้ำไปยังตำแหน่งที่จอด ใช้เวลาพักใหญ่ ๆ ไปแบบช้ามาก ๆ ระหว่างที่ลากไปก็คงไม่พ้นเข้าดลกออนไลน์เช็ค Facebook อัปเดตสเตตัสกันต่างๆ โพสรูปที่ถ่าย ๆ กันมาอย่างสนุกสนาน

นี้คือชั้นล่างที่เอาไว้กินข้าว ทำสันทนาการต่าง ๆ ได้ตามใจเราเลย

เมื่อได้กินข้าวกลางวันแล้วก็ลงเล่นน้ำกับเพื่อน ๆ ในเขื่อ น้ำลึกหน้าดูเลย ต่อให้กระโดดจากแพ ขาก็ไม่เคยถึงพื้น และเวลาจะเดินกลับแพก็ดูยากลำบากถ้าไม่ใส่รองเท้า เพราะพื้นเต็มไปด้วยหินกรวด หรือดินที่ค่อนข้างนิ่มทำให้เท้าอาจจะรู้สึกไม่ค่อยดี ไม่สบายเท้า

บรรยากาศตอนกลางคืน เริ่มจะมืดแล้ว พอมืดแล้วเท่านั้นแหละ อะไรๆ ก็ดูหน้ากลัวไปซะหมด มันมืดจริง ๆจนมองเห็นดาวบนฟ้าได้ชัดแจ๋ว

สิ่งหนึ่งที่อยากมองข้ามไปบ้างคือเรื่องของที่พัก ที่เตียงนอนเป็นฟูกแข็งๆ เหมือนมานอนเข้าค่ายลูกเสือ ด้านบนมี 8 ห้องนอน ก็แบ่ง ๆ กันนอนไป ทุกห้องมีแอร์เย็นอยู่ แต่เสียงของเครื่องปั่นไฟค่อนข้างเสียงดัง ถ้าไม่เมาจริงๆ คงนอนไม่หลับ เพราะมันดังเหลือเกิน แนะนำว่าใครที่จะมาเที่ยวแพควรตกลงกับเจ้าของแพดี ๆ ว่าจะซื้ออาหารมาเอง หรือซื้อน้ำมันมาเอง เพราะทุกอย่างบนนี้ถ้าขาดอะไรไปต้องโทรแจ้งเจ้าของเรือแล้วเค้าจะขับเรือลำเล็ก ๆ มาซึ่งคิดค่าบริการค่อนข้างแพงอยู่ เป็นไปได้แนะนำให้เตรียมมาให้ครบจะดีกว่าครับ

มุมนี้สวยมาก ๆ เห็นเมฆอยู่บนสันเขา

บรรยากาศตอนเช้าออกมาจิบกาแฟแก้ง่วงและมองบรรยากาศรอบๆ ตัวอากาศไม่ร้อนเลย ส่วนใหญ่แพลำอื่น ๆ จะมาตกปลากัน แต่ไม่รู้ว่ามีใครได้ปลากลับไปทำอาหารบ้าง ชอบจริงๆ บรรยากาศบนเขื่อนมันชิวมากๆ ชิวจนสโลไลฟ์ เหมือนไม่มีอะไรทำ ถ้าไม่เปิดเพลงละก็ เล่าเรื่องผีสยองขวัญแน่นอน

เก็บภาพความประทับใจก่อนกลับบ้าน ถ่ายรูปหมู่

ต่อจากนั้นเราก็เดินทางกลับตามเส้นทางเดิมทุกประการ รถค่อนข้างเยอะและติดเป็นอย่างมาก ดีนะที่ขับมอเตอร์ไซต์เลยใช้เวลาเดินทางกลับ กรุงเทพฯ ไม่นานประมาณ 3 ชั่วโมง มีคนมาออกทริปจำนวนมาก