ชุมชนคุณธรรมวัดท่าบันเทิงธรรม จังหวัดนนทบุรี

วัดท่าบันเทิงธรรม สันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๖ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓) ถูกสร้างขึ้นโดยราชสกุลปราโมช และได้รับการทำนุบำรุงให้เจริญขึ้นตามลำดับ จนเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๑ ได้เพิ่มเติมนามวัดเป็น “วัดท่าบันเทิงธรรม” มีปูชนียสถานสำคัญ คือ รอยพระพุทธบาท

การร้อยพวงมาลัย เป็นอาชีพของชาวบ้านในชุมชน ต้นพุดเป็นพืชประจำท้องถิ่น พวงมาลัยที่ร้อยมีคุณค่าและความสวยงาม และการร้อยพวงมาลัยเป็นอาชีพของชาวบ้านในชุมชนที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ จนมาถึงรุ่นลูก-หลาน เป็นอาชีพหลักของครอบครัว

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

โบสถ์หลวงพ่อหมอ
เป็นโบสถ์ในสมัยรัชกาลที่ ๓ และมีหลวงพ่อหมอ ที่ประชาชนเคารพนับถือ เนื่องจากมาขอพรให้หายป่วย แล้วหายป่วย จึงได้ชื่อหลวงพ่อหมอ

เจดีย์ ๓ องค์
มีอายุ ๑๕๐ ปี ซึ่งในสมัยโบราณจะนำของมีค่ามาใส่ไว้ในเจดีย์ เช่น เงิน ทอง พระพุทธรูป

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

บ้านนนท์คาเฟ่
เป็นบ้าน และทำร้านกาแฟ ในพื้นที่ครอบครัว มีคนในครอบครัวช่วยกันทำร้านกาแฟ อาหาร และทำสวน นาผสม มีปลูกข้าวนาปลัง ต้นไม้ผล เช่น มะม่วง กล้วย ผักสวนครัวไว้กินเอง

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ฟาร์มเห็ดหลินจือ
ความเป็นมา อยากให้ชาวบ้านในชุมชนมีรายได้มีอาชีพอยู่กับบ้านไม่ต้องไปทำงานไกลบ้าน

กิจกรรมการท่องเที่ยว

ล่องเรือ
คลองบางโสน ชมวิถีชีวิตบ้านริมน้ำ
กลองยาว
การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมวัดโคนอนมหาสวัสดิ์ จังหวัดนนทบุรี

ชุมชนคุณธรรมวัดโคนอนมหาสวัสดิ์ เกิดขึ้นในช่วงกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย แต่เดิมเป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและค้าขาย เนื่องจากมีคลองบางราวนก และคลองโคนอนไหลผ่านและเชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม พื้นดินมีความอุดมสมบูรณ์

ชุมชนคุณธรรมวัดโคนอนมหาสวัสดิ์ แม้ปัจจุบันเป็นลักษณะของชุมชนเมือง แต่ความสัมพันธ์ของคนในชุมชนยังคงไว้ซึ่งความรัก ความสามัคคี โอบอ้อมอารีย์ มีมิตรไมตรี การดำเนินกิจกรรมในชุมชนจะทำร่วมกันในลักษณะของ บ้าน วัด โรงเรียน ทำให้เกิดเป็นชุมชนเข้มแข็ง ประสบผลสำเร็จในด้านต่าง ๆ ได้ด้วยดี

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดโคนอนมหาสวัสดิ์
เป็นวัดร้างเดิมชื่อวัดวัวนอนเป็นที่ดอนมีบ่อน้ำและต้นกร่างใหญ่ ชาวบ้านจะนำวัวมาพักกินน้ำและหญ้า
ศาลเจ้าแม่ทับทิม
เป็นศาลไม้สักทอง สร้างในสมัยรัชกาลที่  ๔ โดยชาวจีนไหหลำที่เดินทางมาค้าขายในประเทศไทย

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

บ้านโบราณร้อยปี
บ้านโบราณอายุ ๑๐๐ ปี ริมคลองบางราวนก นนทบุรี เป็นบ้านไม้สักเก่าแก่ของตระกูลช่าง มีทั้งช่างทอง ช่างไม้ ช่างแทงหยวก ซึ่งในสมัยโบราณชื่นชมผลงานแกะสลักไม้สักที่มีลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ ของบ้านเก่า และทรงคุณค่าที่ถูกรักษาไว้เป็นอย่างดีจากรุ่นสู่รุ่น

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ศูนย์การเรียนรู้ไม้ดอกไม้ประดับ
เป็นสถานที่อบรมให้ความรู้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมสวนเกษตร

กิจกรรมการท่องเที่ยว

ประติมากรรมปูนปั้นกระดาษรีไซเคิล
ศูนย์การเรียนรู้หมู่บ้านเทพประทาน ใช้ปูนซีเมนต์ผสมกับกระดาษปั้นเป็นแจกันดอกไม้หรือกระถางต้นไม้ ซึ่งมีลวดลายคล้ายกับต้นไม้ตามธรรมชาติ
พับดอกไม้ใบเตย
บ้านร้อยปี เป็นกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมบ้านร้อยปีได้ดูและทำกิจกรรมร่วมกัน
ตัดพวงมโหตร
บ้านร้อยปี เป็นกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมบ้านร้อยปีได้ชมและทำกิจกรรมร่วมกัน

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี

เกาะเกร็ด เป็นพื้นที่ที่ชาวมอญส่วนใหญ่อพยพมาอาศัยอยู่ตั้งแต่ต้น โดยใช้เครื่องปั้นดินเผามาเป็นเครื่องมือในการทำมาหากิน ผสานกับเรื่องราวศิลปะของชาวมอญที่ค่อย ๆ ผสมไปในวิถีชีวิตของคนไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นพื้นที่ที่ชาวมอญอาศัยอยู่ร่วมกับชาวไทยและชาวอิสลามในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งมีวัฒนธรรมลมหายใจแห่งชีวิต ศิลปะ และประวัติศาสตร์มอญอายุกว่า 200 ปี 

การแต่งกาย และภาษาที่เป็นอัตลักษณ์ของชาวมอญ แต่ปัจจุบันการใช้ภาษาชาวมอญเริ่มน้อยลง เนื่องจากผู้สูงเริ่มเสียชีวิตลง แต่การแต่งกายยังคงเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละกลุ่มชุมชน ไทย มอญ และมุสลิม ซึ่งการแต่งกายเป็นสิ่งที่สะท้อนวัฒนธรรมประเพณีของแต่ละชุมชนได้เป็นอย่างดี

 แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดปรมัยยิกาวาส วรวิหาร
เดิมชื่อ “วัดปากอ่าว” พระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ในสมัยรัชกาลที่ ๕ โปรดให้ปฏิสังขรณ์วัดใหม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สนองพระเจ้าบรมมหัยยิกาเธอ กรมสมเด็จพระสุดารัตน์ราชประยูร ผู้ทรงอภิบาลพระองค์ มาแต่ทรงพระเยาว์ และพระราชทานวัดว่า “วัดปรมัยยิกาวาส” และประดิษฐ์ “พระนนทมุนินท์” พระประจำจังหวัดนนทบุรี
วัดฉิมพลี
ชื่อเดิม “วัดป่าฝ้าย” ได้ถูกทิ้งร้างพร้อมกับวัดป่าเลไลย์ที่อยู่ติดกัน รัชกาลที่ ๒ประมาณ พ.ศ. ๒๓๕๘ ได้บูรณะวัดครั้งใหญ่ และเปลี่ยนชื่อเป็น ”วัดฉิมพลีสุทธาวาส” มีปูชนียวัตถุที่สำคัญ คือ อุโบสถขนาดเล็ก มีความงดงามเป็นเลิศ มีเจดีย์มุมสิบสอง และเจดีย์องค์เล็ก ๔ องค์ ล้อมเจดีย์องค์ใหญ่ วัดฉิมพลีสุทธาวาส ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำลัดเกร็ด
วัดไผ่ล้อม
วัดที่สร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย พระอุโบสถสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๓๑๘ โดยพระยาเจ่ง ต้นตระกูลคชเสนีย์ ผู้คุมไพร่พลกองมอญที่เข้ามาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภารและให้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในจังหวัดนนทบุรีขึ้นไปถึงอำเภอสามโคกจังหวัดปทุมธานี โบราณสถานที่สำคัญ คือ อุโบสถ วัดไผ่ล้อม เป็นอาคารขนาดทรงโรงขนาด ๕ ชั้น ก่ออิฐถือปูน หน้าบันไดไม้จำหลักลายดอกพุดตานใบเทศปิดทองประดับกระจกทั้งหมด 

วัดเสาธงทอง
เดิมชื่อว่า วัดสวนหมาก เพราะมีต้นหมากขึ้นอยู่โดยรอบ (ภายหลังต้นหมากถูกตัดออกจนหมดแล้ว) วัดนี้สร้างขึ้นโดยชาวมอญที่เข้ามาอาศัยอยู่ในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเรียกวัดนี้ว่า    เพ๊ยะอาล๊าต ต่อมาวัดนี้เปลี่ยนชื่อมาเป็น วัดเสาธงทอง ในช่วงปลายสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องจากได้สร้างเสาหงส์หลายต้นปักเรียงรายอยู่หน้าวัด ปัจจุบันไม่มีเสาเหล่านี้ตั้งอยู่แล้ว เพราะชำรุดทรุดโทรมมาก พระอุดมญาณมุนี อดีตเจ้าอาวาสจึงให้รื้อถอนออก
หอไทยนิทัศน์ฯ
ตั้งอยู่ภายในวัดปรมัยยิกาวาส โดยมีอาคารสองชั้น ซึ่งแต่เดิมเป็นกุฏิของอดีตเจ้าอาวาส สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นอาคารจัดแสดง ชั้นล่าง หรือ หอไทยนิทัศน์เครื่องปั้นดินเผา ได้รับการสนับสนุนจาก สวทช. จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผาเป็นหลัก โดยได้จำลองเตาเผาและหุ่นจำลองของช่างทำเครื่องปั้นดินเผาไว้ มีมุมฉายวีดิทัศน์เรื่องราวต่าง ๆ อาทิ ขนมไทยที่มีชื่อเสียงของเกาะเกร็ด พื้นที่ส่วนใหญ่ในอาคาร ได้จัดแสดงวิวัฒนาการของเครื่องปั้น ดินเผาที่พบในประเทศไทย และมีตัวอย่างของเครื่องปั้นดินเผาในภาคต่าง ๆ จัดแสดงด้วย  
พิพิธภัณฑ์ ร.๕
วัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร เดิมชื่อวัดปากอ่าว เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา ถูกทิ้งร้างหลังจากเสียกรุงครั้งที่ ๒ จนถึง พ.ศ. ๒๓๑๗ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้ชาวมอญอพยพมาตั้งบ้านเรือนที่เกาะเกร็ด พระสุเมธาจารย์ (เถ้า) พระเถระผู้ใหญ่ฝ่ายรามัญได้รวบรวมผู้มีจิตศรัทธาสร้างเจดีย์ทรงรามัญ ชื่อเจดีย์ร่างกุ้ง รวมทั้งพระพุทธไสยาสน์ขึ้น ต่อมาท่านได้เป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดนี้ พ.ศ. ๒๔๑๗ 

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

บ้านดินมอญ
จากศิลปะภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า ๒๐๐ ปี เครื่องปั้นดินเผา ชาวมอญ เกาะเกร็ด จากรุ่นคุณย่า คุณปู่ มาจนถึง รุ่นหลาน สามารถผสมงานศิลปะไทย ทำให้เครื่องปั้นดินเผา กลายเป็นสินค้าที่มีมูลค่า มีความงดงาม และผลิตเพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น
บ้านศิลป์สยาม
หัวหนุมาน สำหรับบ้านศิลป์สยามสร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธา และเป็นแรงบันดาลใจในการศึกษาและอนุรักษ์ไว้ให้คนไทยและชาวต่างชาติได้ชม เป็นแหล่งเรียนรู้ สร้าง สรรค์ แบ่งปัน งานศิลป์แบ่งเป็น ๒ ชั้น คือ บริเวณใต้ถุนบ้านจำลองเป็นถ้ำ มีมุมนิทรรศการให้เราเรียนรู้เรื่องราวของโขนด้วยตัวเอง ส่วนชั้นบนมีงานศิลปะไทยที่แสดงถึงความปราณีตของงานศิลป์ของไทย เพื่อจะได้ตระหนักถึงคุณค่าที่บรรพบุรุษเราได้สร้างให้พวกเราจนถึงปัจจุบัน รวมถึงจำหน่ายงานศิลปะสวย ๆ ด้วย ส่วนด้านข้างเป็นลานสานศิลป์ สำหรับจัดกิจกรรมงานฝีมือ

ลุงติดินเปอะ
งานปั้นเครื่องปั้นดินเผาที่เคยรุ่งเรืองในอดีต บ่งบอกถึงความเจริญของยุคสมัย มาบัดนี้ความงามและความรุ่งโรจน์ที่เคยมีให้เห็น กำลังจะเลือนหายไปตามกาลเวลา ทว่าก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่ยังคงอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมนี้ไว้ 
หมู่บ้านโอ่งอ่าง
บ้านโอ่งอ่างของเกาะเกร็ด เป็นสถานที่ขึ้นชื่อเรื่องของการปั้นเครื่องปั้นดินเผาของชาวมอญเมืองนนท์ หมู่บ้านโอ่งอ่างตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเกาะเกร็ด ระหว่างวัดไผ่ล้อมและวัดปรมัยยิกาวาส ตั้งอยู่ในชุมชนหมู่ที่ ๑ หมู่ที่ ๖ และหมู่ที่ ๗ ชาวมอญเรียกหมู่บ้านนี้ว่า “กวานอาม่าน” ที่แปลว่าหมู่บ้านเครื่องปั้นเพราะแต่เดิมคนในหมู่บ้านแห่งนี้เป็นชาวมอญที่เคยทำเครื่องปั้นดินเผาจากหมู่บ้านกวานอาม่านในเมืองมอญ ได้มาทำเครื่องปั้นดินเผาเป็นแห่งแรกที่หมู่บ้านนี้ในสมัยกรุงธนบุรี ซึ่งคนไทยในชุมชนจะเรียก ๓ หมู่บ้านในเกาะเกร็ดนี้ว่า “บ้านมอญ”
หัตถกรรมเครื่องปั้นหมู่ ๑
แหล่งข้อมูลสินค้าโอทอปหนึ่งผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่อเสียงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากดินเหนียวท้องนา การทำเครื่องปั้นดินเผาสืบทอดมาจากบรรพบุรุษชนชาติมอญที่อพยพเข้ามาในประเทศไทย ในปัจจุบันเครื่องปั้นดินเผาเกาะเกร็ดได้พัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์มีมูลค่าเพิ่ม เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นด้วย

สหกรณ์จักสาน
ก่อตั้งเมื่อ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ ในความอนุเคราะห์จากผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ ได้สนับสนุนให้กลุ่มดำเนินการฝึกหัดทำตะกร้าและภาชนะต่าง ๆ จากเส้นพลาสติกและทางมะพร้าวซึ่งเป็นวัสดุที่มีในพื้นที่ เพื่อให้สตรีที่เป็นแม่บ้านที่มีเวลาว่างได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์และก่อให้เกิดรายได้เป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้ ส่วนหนึ่งเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสังคมไม่ให้เป็นภาระแก่ผู้อื่น โดยสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ ได้เข้ามาสอบถามปัญหาและความต้องการของกลุ่มแม่บ้าน และได้จัดอบรมจักสานพลาสติกให้แก่กลุ่มแม่บ้านให้ไปอบรมจักสานพลาสติกเป็นระยะ เวลา ๑ ปี
ครูอุ้มนาฎศิลป์
นาฏศิลป์ไทย เป็นศิลปะการแสดงประจำชาติ เป็นสมบัติของชาติที่มีคุณค่าสูง เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์ไว้ และได้รับการถ่ายทอดสืบต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเป็นแบบแผนที่ยึดถือปฏิบัติแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของชาติ สืบทอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การแสดงนาฏศิลป์เป็นการแสดงที่ใช้ท่ารำประกอบ เพื่อสื่อให้ผู้ชมเข้าใจเรื่องราวของการแสดง ทำให้ได้รับความเพลิดเพลิน มีความสุขที่ได้ชม ได้ฟัง 
ลัดดาบาติก
ได้ไปเรียนรู้วิธีการทำ และนำมาเผยแพร่แก่ชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน มีการจัดตั้งเป็นกลุ่มขึ้นและเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้มีการสาธิต การทำผ้าบาติก การทำดอกไม้ประดิษฐ์จากผ้าใยบัวและการทำจักสาน ซึ่งเป็นงานฝีมือ ศิลปหัตถกรรมประจำชุมชนเกาะเกร็ด ผ้าบาติกเกาะเกร็ด มีลวดลายที่สวยงาม
บ้านธาตุดิน
มุมเล็ก ๆ ที่ยังคงตั้งใจผลิตผลงานหัตถศิลป์จากดิน ที่สร้างสรรค์ลวดลายได้อย่างวิจิตรงดงาม จนเป็นลายเอกลักษณ์และยากยิ่งที่ใครจะเลียนแบบ เช่น ลายดอกพุดตาน ลายเครือเถาว์ ฯลฯ ที่มีรายละเอียดความตื้น ลึก ชัด สร้างมิติให้กับชิ้นงานได้อย่างงดงามและลงตัว ยังมีผลงานอีกหลายรูปแบบของบ้านธาตุดินที่ไม่ได้ทำเพื่อการค้า แต่ทำเพื่อเลี้ยงชีพและหล่อเลี้ยงให้งานศิลปะนี้ยั่งยืนอยู่คู่เกาะเกร็ดต่อไป

โรงสีสตูดิโอ
เป็นโรงสีข้าวได้นำมาดัดแปลงเป็นคาเฟ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เจ้าของได้ดัดแปลงโรงสีเก่าแก่ที่มีอายุกว่า ๑๐๐ ปี มาเป็นคาเฟ่เก๋ ๆภายในคาเฟ่แบ่งออกเป็น ๔ โซนด้วยกัน โดยโซนแรกจะเป็นห้องแอร์ ตกแต่งได้สวยงามและคลาสสิค เหมาะสำหรับใครที่ชอบนั่งชิลล์ ซึมซับบรรยากาศเก่า ๆ ท่ามกลางอากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน โซนที่สองจะเป็นโซนเอาท์ดอร์ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้หลากหลายพันธุ์ ถือเป็นอีกหนึ่งโซนที่สดชื่นโซนที่สาม จะเป็นโซนริมน้ำ ซึ่งโซนนี้ถือเป็นไฮไลท์ ของที่นี่เลยก็ว่าได้ เพราะเราจะได้เห็นวิวโค้งน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาแบบพาโนรามา ยิ่งถ้าได้มาช่วงแดดร่มลมตก เย็นถึงค่ำ ลมพัดเอื่อย วิวสวย “ฟิน” ปิดท้ายกันที่โซนที่พัก จะเปิดเป็นโฮมสเตย์เล็ก ๆ บรรยากาศอบอุ่น ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากพักผ่อนริมน้ำแบบ Slow Life  
เรือนไทย ๑๐๐ ปี
คาเฟ่เรือนไทยอายุเก่าแก่กว่า ๑๐๐ ปี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เหมาะสำหรับนั่งชิว ๆ พักผ่อน สัมผัสกับธรรมชาติ และมีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ

 แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สวนเกร็ดพุทธ
ตำบล เกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120 โทร. 09 3218 8056
สวนเมล่อน
สมุนไพรชารางแดง

สมุนไพรบ้านย่าสา
สวนทุเรียนนายกสมชาย
สวนเกร็ดแก้ว
ศูนย์นวดแผนไทย

 กิจกรรมการท่องเที่ยว

ปั้นดิน
บ้านดินมอญ ใช้ดิน ปั้นดินขึ้นรูปทรงต่าง ๆ
ปั้นโอ่งดินเผา
ลุงติดินเปอะ เป็นการปั้นโอ่งหรือกระถาง
เขียนโขน
บ้านศิลป์สยาม ใช้หัวโขนเล็กฝึกหัดเขียนหัวโขน

รดน้ำปิดทอง
บ้านศิลป์สยาม การใช้สีเหลืองเขียนแล้วติดแผ่นทอง
หมักดินเขียนไทย
บ้านศิลป์สยาม การใช้เสื้อผ้าสีขาวมาหมักดิน และเขียนลายไทย
กระดาษเกร็ดชวา
บ้านศิลป์สยาม ให้รู้กระบวนการรีดผักตบชวาเป็นแผ่นกระดาษ
ปั่นจักรยาน
จักรยาน เป็นการเช่าจักรยานเพื่อปั่นรอบเกาะเกร็ด

เขียนบาติก
ลัดดาบาติก เป็นงานเขียนด้วยเทียนลงบนผ้าและลงสี
ปั้นแต่งโอ่ง
บ้านศิลป์สยาม การใช้โอ่งจากชุมชนแล้วนำดินมาปั้นแต่งบนโอ่งตามจินตนาการ
ทำขนมหวาน
ขนมหวานป้าเล็ก ให้รู้เทคนิคการทำขนมไทย

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

สถานีการเรียนรู้ โครงการอนุรักษ์สวนทุเรียนนนท์

สถานีการเรียนรู้ โครงการอนุรักษ์สวนทุเรียนนนท์

“โครงการอนุรักษ์สวนทุเรียนนนท์” จึงจัดทำขึ้นเพื่ออนุรักษ์ทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองนนท์ จำนวน ๖๐ สายพันธุ์ ภายใต้วิถีชาวสวนนนท์ด้วยการจำลองพื้นที่สวนนนท์ ยกร่อง ปลูกไม้แซม สืบค้นกล้าพันธุ์ทุเรียนนนท์มาอนุรักษ์ ภายใต้ภูมิปัญญาของเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ รวบรวมเป็นข้อมูลองค์ความรู้ในการอนุรักษ์ทุเรียนนนท์จากพื้นที่จริง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการศึกษา ค้นคว้า และปรับปรุงวิธีการในการปลูกทุเรียนนนท์พันธุ์ต่างๆ ได้ต่อไป 

เพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริลงในพื้นที่ จังหวัดนนทบุรีจึงได้พิจารณาให้เทศบาลนครปากเกร็ดดำเนินการปรับสภาพพื้นที่ ๗ ไร่ ในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ นนทบุรี พร้อมจัดประชุมร่วมกับปราชญ์ทุเรียน เกษตรกร และภาคส่วนต่างๆ ในการปรับสภาพดิน กำหนดพื้นที่สวนทุเรียนนนท์ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน วิถีและภูมิปัญญาชาวสวนนนท์ และศูนย์เรียนรู้ภายในสวน โดยการแบ่งพื้นที่ในสวนสมเด็จฯ ส่วนที่จะดำเนินการออกเป็น ๓ ส่วน ดังนี้
          ส่วนที่ ๑ ส่วนลานทรงปลูก กำหนดให้มีพื้นที่ทรงปลูกทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองนนท์ จำนวน ๓ ต้น บริเวณด้านหน้าโครงการ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญในการอนุรักษ์สวนทุเรียนนนท์ และร่วมโครงการในการสร้างศูนย์เรียนรู้วิถีและภูมิปัญญาชาวสวนนนท์ ที่จะจัดทำขึ้นในพื้นที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ นนทบุรี 
         ส่วนที่ ๒ ส่วนพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์เรือนไทย พื้นที่ประมาณ ๓๐๐ ตร.ม. ในลักษณะศูนย์เรียนรู้ เพื่อเป็นส่วนจัดแสดงวิถีและภูมิปัญญาชาวสวนนนท์ พระราชประวัติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พันธุ์ไม้ประจำของสวนสมเด็จฯ ทั้ง ๑๒ สวน โดยเทศบาลนครปากเกร็ดเป็นผู้ดำเนินการออกแบบ และจัดทำผังรายละเอียดโครงการ
          ส่วนที่ ๓ ส่วนสวนทุเรียนนนท์ พื้นที่ประมาณ ๓ ไร่เศษ ดำเนินการถมดินในสวนสมเด็จฯ โดยใช้ดินจากสวนทุเรียนในจังหวัดนนทบุรีพร้อมจัดทำเป็นร่องสวน กำหนดพื้นที่ในการปลูกทุเรียน ทองหลาง มังคุดและไม้พื้นเมือง จัดทำระบบระบายน้ำ ร่องสวน เพื่อสร้างสวนให้มีลักษณะของสวนทุเรียนนนท์

ร้านขนม “Miki Zakka Cafe”

ร้าน Miki Zakka Cafe เป็นคาเฟ่เล็กๆ ย่านบางใหญ่ ตั้งอยู่ในโครงการ The Ville Bangyai ภายในร้านตกแต่งด้วย Concept บ้านของกระรอก จึงเต็มไปด้วยตุ๊กตากระรอกและของตกแต่งที่ทำจากไม้ แสงสว่างในร้านออกโทนส้ม ให้บรรยากาศน่ารักอบอุ่น ที่นี่มีทั้งอาหารคาวและขนมหวานแต่ละเมนูสุดแสนจะน่ารักสีสันสดใส จนดูไปคล้ายของเล่น และยังมีเครื่องดื่มที่ตกแต่งฟองนมเป็นรูปต่าง ๆ อีกด้วย รสชาติดี ราคาเครื่องดื่ม มีตั้งแต่ 50 – 120 บาท ส่วนราคาอาหารและขนมหวาน เป็นราคากลาง ๆ ค่ะ แต่มีบางเมนูที่แอบราคาสูงนิดนึง แต่ก็พอรับได้ค่ะ ร้าน Miki Zakka Cafe เปิดให้บริการทุกวัน (ในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ก็เปิดให้บริการตามปกติค่า)ตั้งแต่เวลา 09:00 – 20:00 น. คำแนะนำ – ถ้าอยากได้รูปสวยๆ แนะนำให้ช่วงเช้า ไม่เกิน 11:00 น. คนจะได้ไม่เยอะเกินไป – ร้านนี้ไม่มีรถเมล์ผ่านจ้าา ต้องเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถแท็กซี่ เท่านั้น

เวลาเปิดร้าน ทุกวัน :12.00-22.00 น. เบอร์ติดต่อ 081-822-5050

ร้าน “แป๊ะราดหน้า มหาชน”

ร้านราดหน้าที่มีเมนูตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักหมื่น รอให้คุณมาลิ้มลองทุกวัน เวลาเปิด 9.00น.-2o.00น. หยุดทุกวันพุธนะครับ ตั้งอยู่ในซอยนนทบุรี46 หรือซอยไทยานนท์ สนามบินน้ำ, นนทบุรี

เวลาเปิดร้านหยุดทุกวันพุธ เปิด 10.00-20.00 น. เบอร์โทร 082-596-8458 โทร: 0815456564

ครัวชายคลอง

ครัวชายคลอง ร้านอาหารเจ้าอร่อย บรรยากาศบ้านสวนริมคลอง นนทบุรี บรรยากาศเย็นสบายทั้งวัน อิ่มอร่อยกับอาหารรสจัดอร่อยสดใหม่ ทั้งอาหารไทย อีสาน และได้บรรยากาศสบาย มาร้านครัวริมคลอง แนะนำให้มาช่วงบ่ายสัก 15.00-17.00 คุณจะได้ชมวิวริมคลอง นั่งแบบสบายไม่ต้องรีบ และจะได้นั่งทานอาหาร ติดริมคลองด้วย ที่นี่ยังมีบริการรับจัดเลี้ยง และห้องคาราโอเกะ ติดริมคลองด้วย ที่นี่ยังมีบริการรับจัดเลี้ยง และห้องคาราโอเกะ ครัวชายคลอง ตั้งอยู่ ถ.กาญจนาภิเษก สะพานกลับรถ ต้องคอยสังเกตุป้ายถ้าไม่คุ้นเส้นทางจะเลย หรือโทรสอบถามเส้นทางได้ที่ 029837660 เปิดบริการ จ-อ 11:00-23:00 น.

เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 23.00 น. โทรศัพท์ : 029837660 , 0864488088, 089 448 4449

ร้านครัวถั่วแระ สนามบินน้ำ ร้านก๋วยเตี๋ยวสุดอร่อย ชิมก่อนปรุง

“ครัวถั่วแระ” นี้เปิดมาบริการ 8 ปีแล้ว น้อยคนที่จะรู้ว่า ถั่วแระ เชิญยิ้ม ดาราตลกที่มักโดนแซวด้วยมุกปากเหม็นและยังเป็นเชียร์ลีดเดอร์ตัวยงที่สร้างสีสันในการเชียร์กีฬาของทีมชาติไทยในแมตช์ใหญ่ๆ จะมีร้านอาหารเป็นของตัวเองอีกด้วย และในการเชียร์ทุกครั้งเขาจะแต่งชุดนักรบและเพ้นต์หน้าเป็นลายธงชาติไทยพร้อมโบกสะบัดธงไปมาแล้วร้องตะโกน “ไทยแลนด์ สู้ๆ ไทยแลนด์ สู้ๆ” จนช่วงหนึ่ง ถั่วแระ เชิญยิ้ม กลายเป็นมาสคอทการเชียร์กีฬาไทยไปโดยปริยาย เขาว่ากันว่าถ้าจะมาร้านครัวถั่วแระให้มองเสาธงชาติเป็นหลัก ใช่ค่ะหาง่ายมากเพราะหมูดาวเองก็เห็นเสาธงตั้งเรียงเป็นแนวยาวหน้าร้านแต่ไกล และยังมีพัดลมไอน้ำพัดฟุ้งสร้างความเย็นให้กับร้าน ทำให้นั่งกินสบายอีกด้วย “เราจะดูสถานะของตัวเองก่อนว่าไม่ว่าจะเล่นละคร เล่นหนัง เล่นลิเก เป็น ดาราหรือนักแสดง เราจะยืนหยัดอยู่นานอีกสักเท่าไหร่ ดาราทุกคนเมื่อถึงจุดสูงสุดของชีวิตคือการได้เป็นดารา ใครๆ ก็ว่าดังแล้ว แต่ผมกลัวจุดดับ สักวันถ้าเราหมดอาชีพเป็นนักแสดงสาธารณะ คนไม่ศรัทธาเมื่อไหร่ แล้วเราจะเอาอะไรกินเลี้ยงครอบครัว เราจึงต้องยึดอาชีพใดอาชีพหนึ่งรองรับ คิดว่าทำการค้าน่าจะเหมาะกับเรา ทำเรื่องอาหารการกิน กินได้ทุกชนชั้น ขายอาหารดีที่สุด เริ่มแรกผมขายข้าวผัด ขายผัดไทย ขายอาหารตามสั่งเล็กๆ แบกะดิน จากนั้นอยากขายของเพิ่มจึงคิดว่าน่าขายก๋วยเตี๋ยว พอดีได้สูตรมาด้วย กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่าร้านเราอร่อยจริงแค่ไหน สูตรต้มยำของเราไม่มีเครื่องปรุงตั้งบนโต๊ะ” ถั่วแระ เล่าถึงเส้นทางจากดาราที่ผันตัวเองมาทำธุรกิจร้านอาหาร มาร้านนี้ต้องกิน “ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสูตรพิเศษ อร่อยไม่ต้องปรุง” เพราะหมูดาวได้ยินคำร่ำลือกันนักต่อนักว่าแซ่บเว่อร์ แถมบริการรวดเร็วประทับใจ เพราะในร้านมีสองเตา เตาหนึ่งทำกลับบ้าน อีกเตาทำขายหน้าร้านและยังมีข้าวหมูแดง หมูกรอบ หมูสะเต๊ะ ลูกชิ้นปิ้ง ให้เลือกกิน นอกจากนี้ยัง “ประเทศไทยกาแฟสด” เครื่องดื่มเย็นมาในแก้วลายหน้าถั่วแระ และลอดช่อง เป็นขนมหวานล้างปาก แหมๆ พูดคุยจนกลิ่นหมูสะเต๊ะและลูกชิ้นปิ้งมันเตะปากหมูดาวเข้าอย่างจัง แล้วมื้อเที่ยงนี้ พวกเราจะเริ่มที่เมนูไหนกันดีนะ ถั่วแระ แนะนำให้หมูดาวชิม “เล็กต้มยำ” เพราะเป็นเส้นที่ขายดีสุด เสิร์ฟมาในชามใบใหญ่มากด้วยเครื่องเคราครบสูตรต้มยำ ซดน้ำไปคำแรก แซ่บจี๊ดถึงเครื่องต้มยำเสียจริง ว่าแล้วก็โซ้ยคำต่อไปจนหมดชามตรงตามสูตรเป๊ะ “ไม่ต้องปรุงอะไรเลย” ถ้ากลัวไม่อิ่มหมูดาวกับอาหมวย ลุยกันต่อที่หมูสะเต๊ะ หมูนุ่มเข้าเครื่องผงกะหรี่กินคู่กับอาจาดที่มีแตงกวา พริกดอง หอมซอย เราข้ามมาอีกจานเป็นลูกชิ้นหมูปิ้ง ที่ได้รสชาติหมูจริงๆ ไม่ใช่ลูกชิ้นแป้ง

ร้านนิตยาไก่ย่าง ถนนรัตนาธิเบศร์ สาขาแยกสะพานพระนั่งเกล้า

นิตยาไก่ย่าง ร้านกว้างขวาง มีโซนให้เลือกนั่งทั้งโซนด้านในร้านที่เป็นแบบห้องแอร์ และโซนด้านนอกร้านแบบนั่งรับลมธรรมชาติ อาหารก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย รสชาติอร่อย ราคาย่อมเยา

เปิดปิดเวลา : 10.30-21.30 น. โทร 02-969-7518-9

ร้านก๋วยเตี๋ยวลุงอู๊ด เจ้าเก่า ซอยท่าอิฐ

ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือลุงอู๊ด(เนื้อ)เจ้าเก่า ร้านแบบบ้านไม้เก่าอยู่ในแม่น้ำ เป็นร้านที่รถยนต์เข้าไม่ได้ ต้องไปจอดรถที่วัดแสงสิริธรรม ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่เปิดมากว่า 60 ปี ร้านนี้ออกรายการทีวีดังๆ เช่น รายการครัวคุณต๋อย และ ตลาดสดสนามเป้า ปัจจุบันลุงอู๊ด เจ้าของไม่ได้ทำก๋วยเตี๋ยวแล้ว ลุงอู๊ดให้รุ่นลูกทำแทน

เปิดปิดเวลา : 08.30-15.00 น. โทร 08-2335-2379 , 02-926-1396