ศูนย์วิจัยทรัพยากรป่าชายเลน ที่ ๒ สมุทรสาคร

ที่ตั้ง ตาบลบางหญ้าแพรก อาเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
๑. เป็นศูนย์ที่ดูแลผืนป่าชายเลนของสมุทรสาคร ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเรียกกันว่า ป่าชายเลนอ่าวมหาชัย โดยมีอยู่สองฝั่งคือฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก คั่นกลางด้วยแม่น้ำท่าจีน ในบริเวณน้ำกร่อยของปากแม่น้า โดยมีอิทธิพลของกระแสน้ำทะเลที่นำเอาโคลนเลนมาทับถมทำให้เกิดหาดเลนยาวตลอดแนวชายฝั่ง มีความอุมสมบูรณ์และมีความหลากหลาย ทางชีวภาพมาก ศูนย์วิจัยป่าชายเลนสมุทรสาครที่เคยมีถึงแสนไร่ จนปัจจุบันเหลือน้อยลงด้วยความร่วมมือของทางราชการ ชาวบ้านและทางภาคเอกชนเพื่อช่วยแต่งเติมชายฝั่งทะเลให้มีสีเขียวขวี สร้างอากาศที่บริสุทธิ์สดชื่น
ศูนย์แห่งนี้ตั้งอยู่ในตาบลบางหญ้าแพรกฝั่งตะวันตก เป็นจุดที่นักดูนกนิยมมาดูนกชายเลน โดยมีเส้นทางเดินเท้ายาวประมาณ ๓๐๐ เมตร เพื่อชมป่าโกงกางและสัตว์ชายเลนประเภทต่าง ๆ อาทิ ปลาตีน ปูก้ามดาบ ฯลฯ ก่อนเดินออกไปถึงระเบียงชายฝั่งที่เป็นจุดดูนกชายเลน ซึ่งเป็นจุดที่สามารถดูนกได้นับพันนับหมื่นตัว บางสายพันธุ์หายากติดอันดับโลก เป็นห้องเรียนตามธรรมชาติที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และเยี่ยมชม ศูนย์วิจัยป่าชายเลนสมุทรสาครถือเป็นแหล่งดูนกระดับนานาชาติเลยทีเดียว
๒. วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
๐๘.๐๐ – ๑๘.๐๐ น.
๓. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว (ช่วงเดือน)
ช่วงฤดูหนาว จะมีโอกาสเห็นนกท้องถิ่นและนกอพยพนับเป็นแสนตัว
๔. ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่างๆ –
๕. กิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจ
ดูนกชายเลนหายาก เดินสะพานไม้แขวน ชมป่าชายเลน และสัตว์ชายเลน สดชื่นกับโอโซนจากป่าชายเลน
๖. เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
๐ ๓๔๔๙ ๘๒๖๒ – ๓
๗. ช่องทางออนไลน์
Facebook ศูนย์วิจัยและถ่ายทอดเทคโนโยลีทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 สมุทรสาคร
๘. สิ่งอานวยความสะดวก
ห้องน้ำ / ทางลาด / ที่จอดรถ / จุดบริการนักท่องเที่ยว / ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

สถานตากอากาศบางปู จังหวัดสมุทรปราการ

ที่ตั้งเลขที่ 164 หมู่ 2 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรปราการ
๑.สถานตากอากาศบางปู ตั้งอยู่ริมทะเลและป่าชายเลน จากอดีตถึงปัจจุบันยังเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมเป็นแหล่งดูนกใกล้เมืองที่สำคัญอีกแห่ง ซึ่งมีนกน้ำหลายพันธุ์ เช่น นกตีนเทียน นกตะขาบทุ่ง นกแว่นตาขาวสีเหลือง นกกะติ๊ดขี้หมู นกนางนวล ซึ่งเป็นนก ที่สร้างชื่อเสียงให้กับบางปูเป็นอย่างมาก นกนางนวลที่มีในอ่าวไทยมีอยู่ 2 ชนิด นกนางนวลใหญ่ – เมื่อบินเหนื่อยแล้วชอบลงลอยตัวบน ผิวน้ำทะเลและนกนางนวลแกลบ – มีในน่านน้ำไทยถึง 15 ชนิด พวกนี้จะไม่ชอบลงลอยบนผิวน้ำทะเล นกนางนวลที่มาอาศัยอยู่ในสถานตาก-อากาศบางปูเป็นนกที่ทำรังวางไข่อยู่รอบ ๆ ทะเลสาปต่าง ๆ ในทิเบตและมองโกเลีย ในฤดูร้อน (ตรงกับฤดูฝนในประเทศไทย) พอลูกโตแข็งแรงสามารถบินได้ในระยะไกลแล้ว ก็จะพากันบินลงมาหากินตามชายทะเลในมหาสมุทรอินเดียจนถึงอ่าวไทย จะย้ายถิ่นถึงอ่าวไทย ในราวต้นเดือนพฤศจิกายน นกนางนวลรุ่นหนุ่มสาวจะมีหัวสีขาว มีจุดสีน้ำตาลคล้ำบริเวณขนคลุมหู พอถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์มันจะเปลี่ยนสีสัน สำหรับเลือกคู่ผสมพันธุ์ โดยเริ่มมีขนสีน้ำตาลดำที่หัว เมื่อได้คู่แล้วก็จะทยอยบินกลับไปวางไข่บนที่ราบสูงใกล้ ๆ ทะเลสาปในประเทศทิเบตและมองโกเลียใหม่ มักจะเริ่มบินย้ายถิ่นกลับในราวเดือนเมษายนและพวกสุดท้ายจะกลับปลายเดือนพฤษภาคม นกนางนวลชอบโฉบคาบเศษอาหารและเศษปลาที่ชาว เรือทิ้งลอยไปบนผิวน้ำ ทำให้ของเน่าเหม็นบนผิวน้ำทะเลหมดไป นางนวลจึงเป็นนก ที่ทำให้วิวทิวทัศน์ตามชายทะเลดูสวยงามน่าท่องเที่ยวน่าชมยิ่งขึ้น
๒. วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
เปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 20.30 น.
๓. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว (ช่วงเดือน)
พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์
๔. ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่างๆ –
๕. กิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจ
“กินปู ดูนก เต้นรำ พักรีสอร์ทงาม ย่ำป่า ยามเย็น” ศูนย์รวมสันทนาการสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมต้อนรับด้วยร้านอาหารรสเลิศ ห้องสัมมนาขนาดใหญ่ บังกะโล สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กิจกรรมปลูกป่าที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติของกองทัพบกและกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย
๖. เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
โทร. 0 2323 9911
๗. ช่องทางออนไลน์
Facebook : สถานตากอากาศบางปู ,http://www.bangpurta.com
๘. สิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องน้ำ / ทางลาด / ที่จอดรถ / จุดบริการนักท่องเที่ยว / ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหาดทรายดำและป่าชายเลน จังหวัดตราด

ที่ตั้ง หาดทรายดำ ตำบลแหลมงอบ อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด 23120
๑.หาดทรายดำ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน บ้านกลาง ตำบลแหลมงอบ อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด อยู่ในพื้นที่ของป่ามะขาม ซึ่งเป็นป่าสงวน แห่งชาติ หาดทรายดำอยู่ปะปนกับต้นไม้ของป่าชายเลนและเหล่าสัตว์น้อยใหญ่มากมายไม่ว่าจะเป็น นก ปูแสม หอยต่าง ๆ เป็นต้น ทำให้พื้นที่เหล่านี้มีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพสูงด้วยมีลักษณะเป็นสันทรายทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตร ตลอดแนวเต็มไปด้วยเม็ดทรายสีดำละเอียด ถือเป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และพบได้เพียง 5 แห่งทั่วโลกเท่านั้น คือที่ ไต้หวัน มาเลเซีย ฮาวาย ทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย และประเทศไทยที่จังหวัดตราด หาดทรายที่นี่แม้มีพื้นที่ไม่มากนัก แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถเดินลงไปสัมผัสผืนทรายหรือจะเดินบนสันดอนทรายที่จัดเตรียมไว้ให้ก็จะได้สัมผัสเม็ดทรายละเอียดนุ่มอย่างใกล้ชิด
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
ทุกวัน 07.00-17.00 น. 
๓.ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว (ช่วงเดือน)
เที่ยวได้ตลอดปี ทั้งนี้ก่อนเดินทางมาที่นี่ควรสอบถามการขึ้นลง ของน้ำทะเลก่อนเดินทาง 
๔.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่างๆ –
๕. กิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจ
-เดินชมป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ 
-หมกตัวในทราบดำ ขัดผิวด้วยทรายดำเม็ดละเอียด 
-เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากชุมชน 
๖.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
0 3951 0841, 0 3951 0962, 08 0574 5544
๗.ช่องทางออนไลน์ –
๘.สิ่งอำนวยความสะดวก/ห้องน้ำ/ทางลาด/ที่จอดรถ/จุดบริการนักท่องเที่ยว/ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมบ้านเก่าริมน้ำประแส จังหวัดระยอง

ชุมชนคุณธรรมบ้านเก่าริมน้ำประแส เป็นชุมชนริมแม่น้ำตั้งแต่สมัยอยุธยา มีแม่น้ำประแสกั้นเขตตำบล มีลำคลองไหลลงสู่ทะเล มีการเลี้ยงปลาน้ำกร่อยริมฝั่งแม่น้ำประแส มีท่าเรือประมงขนาดใหญ่ บริเวณปากแม่น้ำเป็นชุมชนหนาแน่น เป็นแหล่งการค้าชุมชนประแสเป็นชุมชนบ้านเก่าโบราณอยู่ติดริมแม่น้ำ

ประแสเรือนโบราณ สืบสานประเพณีทอดผ้าป่ากลางน้ำ ดื่มด่ำแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เลิศล้ำอาหารพื้นบ้าน ชื่นตระการป่าชายเลน เที่ยวเล่นสามล้อพ่วง

 แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดสมมติเทพฐาปนาราม
เมื่อเดือน 3 ขึ้น 10 ค่ำ ตรงกับวันอาทิตย์ ปีวอก พ.ศ. 2427 ในหลวงรัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสเมืองชายทะเลฝั่งตะวันออก ขึ้นประทับที่ตำบลปากน้ำประแส ฝั่งแหลมสนเมืองแกลง เสด็จมาใกล้เจดีย์สถาน (ปัจจุบันเจดีย์นี้ยังอยู่) ทรงพระราชดำริว่า “ตำบลปากน้ำแหลมสนนี้สมควรเป็นที่สร้างอารามได้” จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พระแกลงแกล้วกล้า (มั่ง) ผู้ว่าราชการเมืองแกลงสร้างอารามขึ้น ณ ที่ใกล้เจดีย์ และพระราชทานนามว่า “วัดสมมติเทพฐาปนาราม” พร้อมพระราชทานที่ดินสร้างวัดจำนวน 10 ไร่ 2 งาน
วัดตะเคียนงาม
เป็นวัดที่ร่มรื่น มีต้นไม้ให้ร่มเงา และเป็นที่ตั้งของต้นตะเคียน ซึ่งเป็นต้นไม้อันทรงคุณค่า เป็น “รุกขมรดกของแผ่นดิน” วัดแห่งนี้มีต้นตะเคียนใหญ่ 2 ต้น ชาวบ้านเรียกว่าต้นตะเคียนเจ้าแม่และต้นตะเคียนเจ้าพ่อ ต้นตะเคียนมีอายุกว่า 400 ปี ในอดีตต้นตะเคียนเป็นหมุดหมายสำคัญในการนำเรือเข้าฝั่งของชาวประมง และจากจดหมายเหตุเมืองจันทบูรบันทึกไว้ว่า ในหลวงรัชกาลที่ 4 มีรับสั่งให้นำไม้ตะเคียนไปสร้างเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ต่อมาในปี พ.ศ. 2409 ชาวบ้านได้สร้างวัดขึ้นและใช้ชื่อว่า “วัดตะเคียนงาม”
อนุสรณ์เรือหลวงประแส
เรือหลวงประแสลำที่ 1 ถูกทำลายลงเพราะเกยตื้นที่แหลมคิชามุน (Kisamun) คราวเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจในสงครามเกาหลี และเมื่อสั่งซื้อเรือใหม่มาทดแทนก็ให้ใช้ชื่อ “ประแส” เช่นเดิม โดยเรือหลวงประแสลำนี้มีเวลาประจำการเกือบ 5 ทศวรรษ ในปี พ.ศ. 2537 เรือรบหลวงประแสมีสภาพเก่าทรุดโทรม ทางกองทัพเรือจึงปลดประจำการและนำไปใช้ฝึกภาคทางเรือของนักเรียนนายเรือแทน จากนั้นเทศบาลตำบลปากน้ำประแสได้เสนอโครงการก่อสร้างอนุสรณ์เรือรบหลวงประแสขึ้น เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ เรือรบดังกล่าวจึงถูกเคลื่อนย้ายมาตั้งอยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบัน
ชุมชนบ้านเก่าปากน้ำประแส
พื้นที่ชุมชนประแสมีทั้งส่วนที่ติดริมน้ำและด้านในที่ไม่ติดริมน้ำ ประชากรเกือบครึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่ริมน้ำประกอบอาชีพประมง ขณะที่ประชากรที่ตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่ด้านในไม่ติดริมน้ำประกอบอาชีพทำนา และทำสวน ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการทำประมงมีการแปรรูปให้เป็นสินค้าที่โดดเด่นของชุมชน ในชุมชนมีร้านอาหารที่มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมาก
บ้านพิพิธภัณฑ์ปากน้ำประแส

อาคารหลังนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากคุณวิเชียร ทรัพย์เจริญ (นายก อบจ.ตราด) อนุญาตให้ใช้บ้านเดิมของท่านแก่เทศบาลตำบลปากน้ำประแส เพื่อใช้ประโยชน์เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงภาพเก่าและเรื่องราวของปากน้ำประแส ความสวยงามและสมบูรณ์ของบ้านหลังนี้เป็นภาพสะท้อนได้ดีถึงรูปแบบสถาปัตยกรรมของชุมชนปากน้ำประแสในอดีต
ศาลกรมหลวงชุมพร
ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ศาลตั้งอยู่ริมปากแม่น้ำประแส ภายในศาลประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริงของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย และเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองระยอง

 แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

ทุ่งโปรงทอง และป่าชายเลน
จุดเด่น คือ ต้นโปรงที่ขึ้นหนาแน่นอยู่เต็มพื้นที่สะท้อนสีเขียวอ่อน จนกลายเป็นทุ่งโปรงทองที่สวยงามแปลกตาแต่เดิมเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านทำการประมง เลี้ยงกุ้ง ทำการเกษตร ทำสวนผลไม้ ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติในบริเวณนี้ถูกทำลายและป่าชายเลนเสื่อมโทรมลง เทศบาลตำบลปากน้ำประแสจึงได้ร่วมกับชาวบ้านพัฒนาพื้นที่ป่าชายเลนแห่งนี้ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และศึกษาเรียนรู้ โดยสร้างสะพานเดินศึกษาธรรมชาติเป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
หาดประแส
บนอนุสรณ์เรือหลวงประแส สามารถมองเห็นวิวทะเลของชายหาดประแสและวิวทะเลแบบไกลสุดตา สวยงามมาก เดินชมเรือรบหลวงแล้ว สามารถมาเดินเล่นชมวิวอันสงบของบริเวณชายหาดประแสได้ บรรยากาศร่มรื่นเป็นธรรมชาติมาก
จุดชมวิวแหลมสน
จุดชมวิวแหลมสน
มีที่จอดรถขนาดใหญ่บริการนักท่องเที่ยว มีศาลสำหรับให้นักเดินทางได้พักผ่อน จำนวน 4 หลัง โดยแบ่งเป็นหลังใหญ่ 1 หลัง และหลังเล็ก ๓ หลัง บริเวณรอบ ๆ รายล้อมด้วยต้นสนที่ให้ความร่มรื่น
มีร้านขายอาหารจำนวนมาก เป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น – ตก เดินชมบรรยากาศริมชายหาดได้
เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการถ่ายรูป
จุดชมวิวสะพานประแสสิน

“สะพานประแสสิน” จุดชมวิวแห่งใหม่ ของจังหวัดระยอง มองเห็นทัศนียภาพ 2 ฝั่ง ทั้งฝั่งทะเลและฝั่งชุมชนประแส เป็นสะพานข้ามแม่น้ำประแส ที่มีความยาว 2,090 เมตร หรือ 2.09 กิโลเมตร เป็นการเปลี่ยนแปลงการสัญจรทางน้ำระหว่างบ้านแหลมสน ตำบลเนินฆ้อ และตำบลปากน้ำประแสร์ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง สู่การสัญจรทางบกเพื่อลดระยะเวลาในการเดินทาง 

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ณ โรงเรียนชุมชนวัดตะเคียนงาม
โรงเรียนชุมชนวัดตะเคียนงาม เลขที่ 223 หมู่ 2 ตำบลปากน้ำกระแส
อำเภอแกลงจังหวัดระยอง
โทร 06 3866 1918
Website: www.takien.ac.th

กิจกรรมการท่องเที่ยว

กิจกรรมท่องเที่ยว ในชุมชนคุณธรรม บ้านเก่าริมน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง

ปากน้ำประแส

  • เรียนรู้การทำอาหารพื้นบ้าน
  • คาดหอย
  • ล่องเรือกินลมชมเหยี่ยวแดง
  • เดินสะพานชมทุ่งโปรงทอง
  • นั่งเรือชมคลองแสมผู้
  • นั่งสามล้อชมเมือง
  • ปลูกป่าชายเลน
  • ปั่นจักรยาน

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมบ้านบางเกตุ จังหวัดเพชรบุรี

ติดทะเลอ่าวไทย มีชายหาดที่ยังคงความเป็นธรรมชาติที่สะอาด บรรยากาศดี มีทรัพยากรธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ได้แก่ หาดบางเกตุ มีป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก มีดงตาล เป็นพื้นที่สาธารณะของชุมชน จำนวน 79 ไร่ มีต้นไม้ใหญ่อายุกว่า ๑๐๐ ปี ได้แก่ ต้นมะม่วงป่า ต้นเกด และพืชหายาก เช่น มะกล่ำตาหนู 

บ้านบางเกตุ มีชายหาดที่ยังคงความเป็นธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มีผักบุ้งทะเล หอยทรายเป็นจำนวนมาก บรรยากาศชายหาดเงียบสงบ ปลอดภัย มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศนิยมมากางเต็นท์พักผ่อนหย่อนใจ ภายในชุมชนมีโรงแรม ที่พัก ไว้บริการนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ บ้านบางเกตุมีการปลูกน้อยหน่าใน ทุกครัวเรือน เป็นผลไม้พันธุ์พื้นเมืองขึ้นชื่อด้วยรสชาติหวานอร่อย

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดโตนดหลวง
เป็นวัดที่ตั้งอยู่หมู่ที่ ๙ ตำบลบางเก่า ที่ชาวบ้านบางเกตุนิยมไปเข้าวัดทำบุญ เป็นวัดโบราณสันนิษฐานว่า ก่อสร้างขึ้นราวปลายสมัยอยุธยา หรือต้นรัตนโกสินทร์ มีอุโบสถศิลปะสมัยอยุธยา ลักษณะคล้ายเรือสำเภา มีประตูเดียว มีหน้าต่าง 2 บาน และเรียกอุโบสถลักษณะนี้ว่า “อุโบสถมหาอุด”

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

หาดบางเกตุ
ชายหาดที่ยังคงความเป็นธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มีผักบุ้งทะเลหอยทรายเป็นจำนวนมาก บรรยากาศชายหาดเงียบสงบ ปลอดภัย  มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศนิยมมากางเต็นท์พักผ่อน

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านบางเกตุ (บ้านสวน นกน้อย)
ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ ๓๖/๒ หมู่ที่ ๗ ตำบลบางเก่า อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ภายในศูนย์ฯ มีการปลูกต้นน้อยหน่า ซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมือง ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติหวานอร่อย นอกจากนั้นยังมีการปลูกพืชผลชนิดอื่นอีกด้วย
ดงตาล ๗๙ ไร่
เป็นพื้นที่สาธารณะของหมู่บ้านจำนวน ๗๙ ไร่ มีต้นตาล และต้นไม้ใหญ่อายุกว่า ๑๐๐ ปี มีพืชหายาก ได้แก่ ต้นมะกล่ำตาหนู ที่ชาวบ้านต้องการอนุรักษ์ไว้ให้รุ่นลูกหลานได้รู้จัก

กิจกรรมการท่องเที่ยว

ล่องเรือศึกษาระบบนิเวศน์ ป่าชายเลน
คลองระบายน้ำบ้านบางเกตุบ้านบางเกตุมีเรือบริการนักท่องเที่ยวล่องเรือชมระบบนิเวศน์ป่าชายเลน ใช้เวลาประมาณ ๑ ชม.
นอนกระโจมดูดาว
หาดบางเกตุ หาดบางเกตุ เป็นชายหาดที่สะอาด เงียบสงบนักท่องเที่ยวสามารถนำเต็นท์มากางนอนบริเวณชายหาดเล่นน้ำทะเลขุดหอยทราย
ปั่นจักรยาน/ขึ้นรถราง ชมวิถีชีวิตชุมชน
บ้านบางเกตุ บ้านบางเกตุมีจักรยานและรถรางบริการนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมวิถีชีวิตชุมชน ใช้เวลาประมาณ ๒ ชม. ได้แก่ ชมต้นไม้อายุกว่า ๑๐๐ ปี /เก็บใบชะคราม /ชมการทำโมบายเปลือกหอย / ชมสวนน้อยหน่า ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น
การละเล่นพื้นบ้าน “เพลงโนเน”
บ้านบางเกตุ การแสดงพื้นบ้าน “เพลงโนเน” จัดเป็นการละเล่นพื้นบ้าน ประเภทเกี้ยวพาราสี มีบทร้องพร้อมบทเจรจาโต้ตอบกันเพลงโนเน ไม่ใช้เครื่องดนตรี การให้จังหวะใช้การปรบมือให้พร้อมเพรียงกัน นิยมเล่นในช่วงวันสงกรานต์ โดยจะรวมกันระหว่างพ่อเพลงและแม่เพลงร่วมร้องเพลงโนเนกันในหมู่บ้าน
ทำอาหารพื้นบ้าน 
บ้านบางเกตุ บ้านบางเกตุเป็นชุมชนที่อยู่ติดทะเลจึงมี ใบชะครามขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงนำใบชะครามมาประกอบอาหาร ได้แก่ แกงใบชะคราม / ข้าวผัดชะคราม /ทอดมันชะคราม

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม