วัดแค จังหวัดสุพรรณบุรี

ที่ตั้ง หมู่ที่ ๑ ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
๑. วัดแค เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อปรากฏในวรรณคดี เรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” อยู่ในอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ภายในวัดนี้มีต้นมะขามยักษ์ ซึ่งเป็นรุกขมรดกของแผ่นดินใต้ร่มพระบารมี และมีพระอาจารย์คงนั่งบนพญาต่อยักษ์ นอกจากนี้ทางจังหวัดได้สร้างเรือนไทยทรงโบราณเรียกว่า “คุ้มขุนแผน” ไว้ใกล้กับต้นมะขามยักษ์นี้อีกด้วย วัดนี้มีโบราณวัตถุที่น่าสนใจ ได้แก่ พระพุทธบาทสี่รอย ทำด้วยทองเหลือง กว้าง 1.40 เมตร ยาว 2.80 เมตร สร้างซ้อนกันไว้ในรอยใหญ่ นอกจากนี้ก็มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิราบศิลปะรัตนโกสินทร์ จีวรและอังสะเป็นดอกพิกุลงดงามมาก ประดิษฐานอยู่ในวิหารหน้าพระประธาน
๒. วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
เปิดตลอด ๒๔ ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ
๓. ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ –
๔. เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
08 1403 9040
๕. ช่องทางออนไลน์
https://www.facebook.com/watkae/
๖. สิ่งอำนวยความสะดวก
/ห้องน้ำ / ทางลาด / ที่จอดรถ / จุดบริการนักท่องเที่ยว / ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร จังหวัดสกลนคร

ที่ตั้งตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
๑. พระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เป็นวัดที่มีพระธาตุเชิงชุม ปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ คู่เมืองสกลนคร องค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อครอบรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ ภายในวิหารยังเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อพระองค์แสน พระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะเชียงแสนที่งดงาม องค์พระธาตุหันหน้าไปทางหนองหานในทางทิศตะวันออก เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน รูปทรงสี่เหลี่ยม สูง 24 เมตรเศษ ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม ส่วนบนเป็นทรงบัวเหลี่ยม ไม่มีลวดลายประดับ ที่ฐานเจดีย์ มีซุ้มประตูทั้งสี่ด้าน ยอดฉัตรทองคำเหนือองค์พระธาตุเชิงชุมทำด้วยทองคำบริสุทธิ์มีน้ำหนัก 247 บาท ซุ้มยอดประตูมีลักษณะเป็นยอดปราสาท ข้างในทึบสร้างด้วยศิลาแลง และหินทรายแดง ซุ้มประตูหลอกแบบขอม ด้านทิศ เหนือ ใต้ และตะวันตก
ซุ้มประตูทางเข้าจริงด้านทิศตะวันออกแต่แรกเริ่มพระธาตุเชิงชุมคงเป็นปราสาทหินทรายศิลปะสมัยขอม ภายในกรอบประตูทางเข้าอุโมงค์ด้านขวามือ มีจารึกพระธาตุเชิงชุมอักษรขอมโบราณ ราวพุทธศตวรรษที่ 16 องค์พระธาตุในปัจจุบันเป็นศิลปะล้านช้าง เนื่องจากช่วงที่อิทธิพลของอาณาจักรล้านช้างแผ่เข้ามาบริเวณภาคอีสานของไทย ราวพุทธศตวรรษที่ 19 และได้มีการบูรณะองค์พระธาตุขึ้นมาใหม่ รวมถึงมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เล่ากันว่าเป็นทางเชื่อมระหว่างเมืองมนุษย์กับเมืองพญานาคที่จมอยู่ใต้หนองหาร ซึ่งชาวสกลนครเชื่อว่าการมาสักการะพระธาตุเชิงชุมจะช่วยให้รอดพ้นจากอันตรายทั้งปวง รวมถึงขอพรให้มีโชคลาภ
๒. วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
วันจันทร์ – วันอาทิตย์
– ตลอด 24 ชั่วโมง ในการนมัสการองค์พระธาตุเชิงชุม และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
– 06.00 น. 18.00 น. ในการนมัสการหลวงพ่อพระองค์แสน
๓.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ (ไม่มี)
๔. เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
08 9416 3972 /0 4271 6247
๕. ช่องทางออนไลน์-
๖. สิ่งอำนวยความสะดวก /ห้องน้ำ/ทางลาด/ที่จอดรถ/ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว/ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

กราบขอพรพระพรหมภูมิปาโล วัดภูสิงห์

บนยอดภูสิงห์เป็นที่ประดิษฐาน พระพรหมภูมิปาโล พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่สีขาว หน้าตักกว้าง 10.5 เมตร สูง 17.80 เมตร สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2511 เป็นพระพุทธรูปใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งของภาคอีสาน มีความงดงามและสมส่วนทางพุทธศิลป์พุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และขึ้นไปพักผ่อนหย่อนใจชมชมทัศนียภาพ “เมืองสหัสขันธ์” เพราะจากยอดภูสิงห์สามารถมองเห็นวิวโดยรอบอย่างชัดเจนทั้งภูกุ่มข้าว ภูค่าว ที่อยู่ไม่ไกลกัน รวมถึงเขื่อนลำปาว และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงาม
ผู้ต้องการขึ้นสู่ยอดภูสิงห์สามารถขับรถยนต์ขึ้น หรือจะเดินเท้าทางบันได 654 ขั้นก็ได้ กิจกรรมประจำปี ณ วัดพุทธาวาสภูสิงห์ มีดังนี้
1) กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีบนลานยอดเขาภูสิงห์
2) กิจกรรมวันมาฆบูชาจัดปฏิบัติธรรม ประมาณ 3-4 วัน
3) กิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน
4) ประเพณีสงกรานต์ การแห่ผ้าอังสะถวายพระพรหมภูมิปาโลขึ้นบันได 654 ขั้นขึ้นบนยอดเขาภูสิงห์
5) กิจกรรมวันวิสาขบูชา จัดปฏิบัติธรรมประจำปี
6) กิจกรรมทำบุญตักบาตรวันแม่
7) กิจกรรมตักบาตรเทโวโรหณะงานประจำปี ระดับจังหวัดที่ยิ่งใหญ่ พระสงฆ์กว่า 400 รูปเดินลงมาจากภูเขาภูสิงห์มาทางบันไดเพื่อรับบิณฑบาตบริเวณเชิงเขา

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม