วัดถ้ำเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว

ที่ตั้งหมู่5 ตำบลเขาฉกรรจ์ อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว
๑. ตั้งอยู่บนเขาฉกรรจ์ ซึ่งเป็นเขาหินปูนขนาดใหญ่สามลูกที่ตั้งเรียงตัวติดกัน เป็นภูเขาหินปูนดึกดำบรรพ์ อายุราว 2-4 พันปี โดยมีเขาฉกรรจ์เป็นลูกใหญ่ที่สุดและอยู่ตรงกลางมีภูเขามิ่งอยู่ด้านซ้ายและเขาผา อยู่ด้านซ้าย และขวาตั้งตระหง่านอยู่ริมทาง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถแวะเที่ยวชมได้อย่างง่ายดายและบริเวณเชิงเขาเป็นสวนรุกขชาติ ใช้เป็นสถานที่ปลูกป่าของกรมป่าไม้บริเวณเขาฉกรรจ์นี้ยังเป็นที่ตั้งของ “วัดถ้ำเขาฉกรรจ์” ซึ่งเป็นวัดในพระพุทธศาสนา นิกายมหายาน ภายในวัดประกอบด้วยพระอุโบสถที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2433 มีลักษณะเป็นอาคารคอนกรีต เสริมเหล็ก กุฏิสงฆ์เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้และมีบันไดประมาณ 300 ขั้น เพื่อขึ้นไปยังยอดเขา จุดชมวิว
๒. วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30 – 16-30 น.
๓. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว (ช่วงเดือน)
ตลอดทั้งปี
๔.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่างๆ –
๕. กิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจ
มีรอยพระพุทธบาทจำลองและจุดชมวิว เมื่อปีนขึ้นไปบนถ้ำจะมองลงไปเห็นวิวสวยงาม เพื่อให้เห็นทัศนียภาพที่สวยงาม ของอำเภอเขาฉกรรจ์ได้อย่างชัดเจน
๖.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
0 3731 2282 , 0 3731 2284
๗.ช่องทางออนไลน์ –
๘.สิ่งอำนวยความสะดวก ห้องน้ำ / ทางลาด / ที่จอดรถ / จุดบริการนักท่องเที่ยว / ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ถ้ำผานางคอย จังหวัดแพร่

ที่ตั้ง ทางหลวงหมายเลข 101ถึงกิโลเมตร ที่ 58 – 59 อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่
๑.ถ้ำผานางคอย เป็นภูเขาหินปูน ถ้ำและหินงอกหินย้อยสวยวิจิตร อลังการ เป็นประติมากรรมที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง เมื่อร้อยเรียงเข้ากับตำนานพื้นบ้านบอกเล่าถึงที่มาของเสาหิน รูปทรงผู้หญิงกำลัง อุ้มลูกน้อยเพื่อรอคอยการกลับมาของชายอันเป็นที่รักนั้น ซึ่งได้กลายเป็นที่มาของชื่อ “ถ้ำผานางคอย”ตัวถ้ำอยู่บนหน้าผาสูง 50 เมตร เป็นอุโมงค์ลึกยาว 150 เมตร กว้าง 10 เมตร ลักษณะของถ้ำโค้งงอเป็นข้อศอกไปทางซ้าย และทางขวาเป็น 3 ตอนด้วยกัน ภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อยลักษณะต่างๆ ทั้งที่เป็นเกล็ดหินประกายระยิบระยับ จุดสำคัญของถ้ำ คือ หินนางคอย เป็นหินปูนที่หยดย้อยลงมาก่อเกิดรูปทรงเหมือนหญิงสาวกำลังก้มหน้าโอบอุ้มลูกน้อยนั่งอยู่บนแท่นหิน และต้องยืนอยู่ห่างออกมาประมาณ 10 เมตร จึงจะมองเห็นรูปร่างได้ชัด
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
เปิดทุกวัน8.30-17.00 น
๓.ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว (ช่วงเดือน)
ตลอดปี
๔.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่างๆ –
๕. กิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจ –
๖.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
0 5453 2485 ต่อ 102 ฝ่ายส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพาณิชย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่
๗.ช่องทางออนไลน์
https://www.phraepao.go.th
๘.สิ่งอำนวยความสะดวก/ห้องน้ำ/ที่จอดรถ

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

แลนด์มาร์คบ้านมุง จังหวัดพิษณุโลก

ที่ตั้ง หมู่ ๑ ตำบลบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก
๑.แลนด์มาร์คบ้านมุง เป็นจุดชมค้างคาว ลักษณะพื้นที่มีภูเขาหินปูนสลับซับซ้อน ทอดยาวรอบๆ หมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านได้เรียกว่า “คุนหมิงแห่งเมืองไทย” นอกจากเทือกเขาหินปูนที่สวยงามอย่างมากแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ ฝูงค้างคาวหน้ายักษ์เล็กจมูกปุ่ม หรือชื่อวิทยาศาสตร์คือ Hipposideros halophyllus นับล้านตัว ที่จะบินออกจากถ้ำบ้านมุง บริเวณวัดบ้านมุง ไปหาอาหารทุกเย็นในช่วงเวลาประมาณ 18.00-19.00 น.มองเห็นเป็นทิวแถวยาวเหยียดหลายกิโลเมตร ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยาก นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟ รีสอร์ท จุดถ่ายภาพให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสกับบรรยากาศความสวยงามของธรรมชาติและภูเขาหินปูนอายุกว่า ๓๐๐ ล้านปี
๒. วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่ ตลอดเวลา
๓. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว ตลอดปี
๔. ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่างๆ –
๕. กิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจ พิชิตยอดเขาล่องเรือตาหมื่นอัญมณีแห่งบ้านมุง
๖. เบอร์โทรศัพท์ 0 5599 2948
๗. สิ่งอำนวยความสะดวก/ห้องน้ำ/ที่จอดรถ/ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

ที่ตั้ง 273 หมู่ 5 ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
๑.ความโดดเด่น/ความสำคัญ
มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนรูปกรวยคว่ำสูง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล สูงเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศรองจากดอยอินทนนท์และดอยผ้าห่มปก มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ โดยอยู่ในการดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่ มีการศึกษาธรรมชาติและพักค้างแรม ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว บริเวณเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติดอยหลวงเชียงดาว
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
ปิดพักฟื้นธรรมชาติตั้งแต่ 1 มิถุนายน – 31 ตุลาคม ของทุกปี
๓.ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว (ช่วงเดือน)
พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์
๔.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่างๆ (ระบุเครื่องหมาย /)
ค่าธรรมเนียมเข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว
● ผู้ใหญ่ 20 บาท/คน (อายุ 14 ปีขึ้นไป)
● เด็ก 10 บาท/คน (อายุ 4-13 ปี)
● ชาวต่างชาติ 200 บาท/คน
● ค่ามัดจำขยะ 500 บาท คน
● ค่าธรรมเนียมสถานที่กางเต็นท์ หลังละ 30 บาท/คน/คืน
● ค่าประกันชีวิต
อัตราค่าเช่าอุปกรณ์ในการพักแรม
● เต็นท์ 300 บาท/หลัง
● ถุงนอน 100 บาท/ถุง
● แผ่นรองนอน 50 บาท/อัน
● หม้อสนาม 60 บาท
● เตาแก๊ส 100 บาท/อัน
● แก๊สกระป๋อง 60 บาท/กระป๋อง
● กระเป๋าชุดขับถ่ายฉุกเฉินประมาณ 200 บาท/ชุด/คน
● ค่ามัดจำอุปกรณ์พักแรม 500 บาท
บริการจากชุมชน
● ค่าบริการรถรับจ้าง ไป-กลับ 480 บาท/คน (โดยสารได้จำนวน 5 คน)
● ค่าบริการคนนำทาง ไป-กลับ 120 บาท/คน (บริการนักท่องเที่ยวได้จำนวน 10 คน)
● ค่าบริการลูกหาบ ไป-กลับ 200 บาท/คน (บริการนักท่องเที่ยวได้จำนวน 5 คน)
*ลูกหาบ 1 คน ขนสัมภาระได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัม
๕. กิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจ
มีการศึกษาธรรมชาติและพักค้างแรม ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว บริเวณเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติดอยหลวงเชียงดาว
๖.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
โทร.0 5345 6623
๗.ช่องทางออนไลน์
https://m.facebook.com/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-1907831442777293/
๘.สิ่งอำนวยความสะดวก (ระบุเครื่องหมาย /)
ห้องน้ำ ทางลาด ที่จอดรถ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม