หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี จ. สมุทรสาคร

ที่ตั้ง เลขที่ ๓๒ หมู่ ๑ บ้านดอนไก่ดี ซอย ๖ ตำบลดอนไก่ดี อาเภอกระทุ่มแบน จ. สมุทรสาคร
๑. ชื่อยี่ห้อ/แบรนด์ ปานรดา เบญจรงค์
๒. ชื่อผู้ประกอบการ กัลยาณพ มารุ่งเรือง
๓. ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น
๓.๑ ชื่อผลิตภัณฑ์ แก้วน้ำลายนกยูง
ผลิตภัณฑ์เอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยจะเน้นเบญจรงค์ที่มีลวดลายนกยูง ลวดลาย๑๒ นักษัตร ที่มีความเฉพาะตัว มีความทันสมัยผลิตภัณฑ์สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ ทำให้มีความสะดวกต่อการใช้งาน
๓.๒ ชื่อผลิตภัณฑ์ ต่างหูลายเบญจรงค์
ผลิตภัณฑ์ทำจากเซรามิครูปทรงต่างๆ ทั้งทรงกลม ทรงสีเหลี่ยม นำมาเขียนลาย เพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์
๔. วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
ทุกวัน เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๗.๐๐ น.
๕. เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
๐๙ ๕๑๖๓ ๑๓๗๓
๖. ช่องทางออนไลน์
Facebook : ปานรดา+ยืนยง เบญจรงค์ ดอนไก่ดี

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ศูนย์วิจัยทรัพยากรป่าชายเลน ที่ ๒ สมุทรสาคร

ที่ตั้ง ตาบลบางหญ้าแพรก อาเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
๑. เป็นศูนย์ที่ดูแลผืนป่าชายเลนของสมุทรสาคร ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเรียกกันว่า ป่าชายเลนอ่าวมหาชัย โดยมีอยู่สองฝั่งคือฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก คั่นกลางด้วยแม่น้ำท่าจีน ในบริเวณน้ำกร่อยของปากแม่น้า โดยมีอิทธิพลของกระแสน้ำทะเลที่นำเอาโคลนเลนมาทับถมทำให้เกิดหาดเลนยาวตลอดแนวชายฝั่ง มีความอุมสมบูรณ์และมีความหลากหลาย ทางชีวภาพมาก ศูนย์วิจัยป่าชายเลนสมุทรสาครที่เคยมีถึงแสนไร่ จนปัจจุบันเหลือน้อยลงด้วยความร่วมมือของทางราชการ ชาวบ้านและทางภาคเอกชนเพื่อช่วยแต่งเติมชายฝั่งทะเลให้มีสีเขียวขวี สร้างอากาศที่บริสุทธิ์สดชื่น
ศูนย์แห่งนี้ตั้งอยู่ในตาบลบางหญ้าแพรกฝั่งตะวันตก เป็นจุดที่นักดูนกนิยมมาดูนกชายเลน โดยมีเส้นทางเดินเท้ายาวประมาณ ๓๐๐ เมตร เพื่อชมป่าโกงกางและสัตว์ชายเลนประเภทต่าง ๆ อาทิ ปลาตีน ปูก้ามดาบ ฯลฯ ก่อนเดินออกไปถึงระเบียงชายฝั่งที่เป็นจุดดูนกชายเลน ซึ่งเป็นจุดที่สามารถดูนกได้นับพันนับหมื่นตัว บางสายพันธุ์หายากติดอันดับโลก เป็นห้องเรียนตามธรรมชาติที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และเยี่ยมชม ศูนย์วิจัยป่าชายเลนสมุทรสาครถือเป็นแหล่งดูนกระดับนานาชาติเลยทีเดียว
๒. วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
๐๘.๐๐ – ๑๘.๐๐ น.
๓. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว (ช่วงเดือน)
ช่วงฤดูหนาว จะมีโอกาสเห็นนกท้องถิ่นและนกอพยพนับเป็นแสนตัว
๔. ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่างๆ –
๕. กิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจ
ดูนกชายเลนหายาก เดินสะพานไม้แขวน ชมป่าชายเลน และสัตว์ชายเลน สดชื่นกับโอโซนจากป่าชายเลน
๖. เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
๐ ๓๔๔๙ ๘๒๖๒ – ๓
๗. ช่องทางออนไลน์
Facebook ศูนย์วิจัยและถ่ายทอดเทคโนโยลีทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 สมุทรสาคร
๘. สิ่งอานวยความสะดวก
ห้องน้ำ / ทางลาด / ที่จอดรถ / จุดบริการนักท่องเที่ยว / ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมวัดสุทธิวาตวราราม (บ้านท่าฉลอม) จังหวัดสมุทรสาคร

บ้านท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาครในสมัยอยุธยาเคยเป็นบ้านท่าจีน ซึ่งมีคนจีนมาเทียบท่าค้าขายจนเกิดเป็นชุมชนขนาดใหญ่ ซึ่งต่อมาได้ตั้งชื่อเป็นเมืองสาครบุรี แล้วเจริญขึ้นจนเป็นจังหวัดสมุทรสาคร หนึ่งในย่านสำคัญที่ขยายจากบ้านท่าจีนเป็นพื้นที่ที่มีเรือฉลอมจอดอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้ชื่อว่า“ท่าฉลอม”และเป็นชุมชนประมงที่สำคัญของจังหวัด
ชุมชนท่าฉลอม เป็นชุมชนชาวจีนที่ใหญ่จังหวัดสมุทรสาครในสมัยอยุธยา ความโดดเด่นของที่นี่ คือ ความสวยงามของการนั่งรถสามล้อถีบของท่าฉลอมเพื่อชมเมืองท่าฉลอม ยังคงรักษาความดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม และเป็นชุมชนประมงที่สำคัญของจังหวัดจึงมีอาหารทะเลแห้งที่โดเด่นของจังหวัด และสามารถนั่งเรือชมปากอ่าวทางออกสู่ทะเลของเรือประมงจังหวัดสมุทรสาคร

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดแหลมสุวรรณาราม
เดิมชื่อว่า “วัดหัวบ้าน” เป็นวัดที่มีอุโบสถไม้เก่าแก่และสวยงามด้วยศิลปะจีนผสมไทยอย่างลงตัว วัดมีความแตกต่างจากวัดไทยทั่วไป คือ มีศาลเจ้าไต้ฮงกงและสุสานจีนตั้งอยู่ในบริเวณวัด ซึ่งสะท้อนให้เห็นการอยู่ร่วมกันได้อย่างดีของคนไทยและคนจีนในชุมชนท่าฉลอม
วัดสุทธิวาตวราราม
เดิมชื่อ “วัดท้ายบ้าน” เพราะอยู่ช่วงท้ายบ้านของท่าฉลอม วัดนี้อยู่ตรงบริเวณปากอ่าวซึ่งมีลมแรงพัดเข้ามา ต่อมาจึงเรียกว่า “วัดช่องลม” ถือว่าเป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสมุทรสาคร
Street Art ท่าฉลอม
Street Art ที่มีการกระจายอยู่ในจุดต่างๆรอบเมือง ซึ่งในแต่ละภาพเกิดขึ้นจากศิลปินชื่อดังและนักศึกษาบางกลุ่มที่มาช่วยกันสร้างสรรค์ความสวยงามนี้ภาพต่างๆจะสะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวและวิถีชีวิตของคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี 

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

ล่องเรือชมวิถีชีวิตชุมชนและชาวประมงในแม่น้ำท่าจีน
นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมบรรยาการทะเลอ่าวไทยทางออกสู่ทะเลของเรือประมง โดยการนั่งเรือชมวิถีชีวิตชุมชน

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ชุมชนท่าฉลอม
หมู่บ้านชาวประมงท่าฉลอมเป็นตำบลใหญ่เรียกว่าตำบลท่าฉลอม เป็นเขตสุขาภิบาลแห่งแรก ในประเทศไทย มีผู้ประกอบอาชีพประมงเป็นจำนวนมาก มีตลาดและกิจการต่อเรือที่ตั้งเรียงรายอยู่บนฝั่ง แม่น้ำท่าจีน การเดินทางไปบ้านท่าฉลอม

กิจกรรมการท่องเที่ยว

ทำลูกประคบสมุนไพรสูตรโบราณ
บ้านท่าฉลอม ศูนย์การท่องเที่ยวและกิจกรรมชุมชน กิจกรรมนี้สอนตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ การห่อลูกประคบ การนึ่งลูกประคบ และการใช้ลูกประคบ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับลูกประคบที่ตนเองได้ลงมือทำกลับบ้านเพื่อนำไปทดลองใช้
เรือฉลอมจำลอง
บ้านท่าฉลอม ศูนย์การท่องเที่ยวและกิจกรรมชุมชน กิจกรรมนี้เป็นการสอนประกอบเรือฉลอมจำลองโดยป้าแจง ตั้งแต่การแนะนำลักษณะและชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเรือฉลอม จากนั้นจึงนำชิ้นส่วนประกอบเข้าด้วยกันจนเป็นเรือฉลอม หลังเสร็จกิจกรรมแล้ว ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับเรือฉลอมจำลองที่ตนเองได้ประกอบกลับบ้านเป็นที่ระลึกด้วย
ผ้ามัดย้อม
บ้านท่าฉลอม ศูนย์การท่องเที่ยวและกิจกรรมชุมชน กิจกรรมนี้เป็นการสอนทำผ้ามัดย้อมโดยพี่จิตร ตั้งแต่การแนะนำอุปกรณ์ต่าง ๆ และสีจากธรรมชาติที่ใช้ทำผ้ามัดย้อม การมัดผ้าเพื่อให้เกิดลวดลายต่าง ๆ ที่สวยงาม และการย้อมผ้า หลังเสร็จกิจกรรมผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ผ้ามัดย้อมที่ตนเองได้ลงมือทำกลับบ้านไว้ใช้ด้วย
กระถางต้นไม้ด้วยผ้าขนหนู
บ้านท่าฉลอมการ์เด้น กิจกรรมนี้เป็นการสอนทำกระถางต้นไม้ด้วยผ้าขนหนูที่ไม่ใช้แล้วโดยน้าป้อม ตั้งแต่การเตรียมผ้าขนหนูที่ไม่ใช้แล้วและน้ำปูนซีเมนต์ที่ใช้ชุบ การชุบผ้าขนหนูลงในน้ำปูนซีเมนต์ การใส่ผ้าลงในแบบเพื่อขึ้นรูปเป็นกระถาง และการลงสีที่กระถางผ้าซึ่งแห้งและแข็งตัวแล้วให้มีลวดลายและสีสันที่สวยงาม
ขนมเทียนสูตรโบราณ
บ้านท่าฉลอม ศูนย์การท่องเที่ยวและกิจกรรมชุมชน กิจกรรมนี้เป็นการสอนทำขนมเทียนสูตรโบราณโดยพี่อุ๊ ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ การห่อ และการนึ่ง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ทราบขั้นตอนการทำและได้ลองห่อขนมเทียน หลังเสร็จกิจกรรมผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ชิมและได้รับขนมเทียนจำนวนหนึ่งกลับบ้านด้วย

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมบ้านชายทะเลรางจันทร์ จังหวัดสมุทรสาคร

บ้านชายทะเลรางจันทร์ หมู่ที่ 4 ตำบลนาโคก อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เป็นชุมชนเก่าแก่ติดทะเลอ่าวไทยมีธรรมชาติที่งดงาม เป็นชุมชนหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ แต่ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

ชุมชนบ้านชายทะเลรางจันทร์ เป็นชุมชนชายทะเลอ่าวไทยมีธรรมชาติที่งดงาม ชุมชนหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ แต่ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม มีการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้วิถีชีวิตชาวเลโดยนักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนได้ อาทิ การเรียนรู้การทำกะปิ การทำไข่เค็มโคลนทะเล กระทำผ้ามัดย้อม เป็นต้น 

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

ศาลเจ้าพ่อเสือคำรน
ศาลเจ้าประจำของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่ชาวบ้านศรัทธาเคารพบูชา ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

จุดชมวิวทะเลอ่าวไทย (สะพานเขียว)
นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมบรรยาการริมทะเลอ่าวไทย โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมคือช่วงยามเย็น

 แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ศูนย์การเรียนรู้วิถีชีวิตชาวเล
นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนได้ อาทิ การเรียนรู้การทำกะปิ การทำไข่เค็มโคลนทะเล กระทำผ้ามัดย้อม เป็นต้น

กิจกรรมการท่องเที่ยว

เรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนชาวทะเลชายฝั่ง
ศูนย์การเรียนรู้วิถีชีวิตชาวเล นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนได้ อาทิ การเรียนรู้การทำกะปิ การทำไข่เค็มโคลนทะเล กระทำผ้ามัดย้อม เป็นต้น

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมกระซ้าขาว จังหวัดสมุทรสาคร

ชุมชนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นมาแล้วมากกว่า 100 ปี โดยชาวจีนกลุ่มหนึ่งที่อพยพมาทางเรือเห็นพื้นที่ติดชายทะเลแห่งนี้อุดมสมบูรณ์มาก จึงตัดสินใจที่จะตั้งรกราก สำหรับชื่อ กระซ้าขาว นั้นมีต้นกำเนิดมาจากซากเปลือกหอยที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาทับถมบริเวณชายหาด จนทำให้พื้นที่ชายหาดแห่งนั้นมีสีขาว สะอาด สวยงาม 

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดกระซ้าขาว (หอมทองราษฎร์บำรุง)
วัดกระซ้าขาวนี้ สร้างเมื่อปี ๒๔๘๖ เดิมมีชื่อว่า “วัดหอมทองราษฎรบำรุง ต่อมาภายหลังจึงได้เปลี่ยนมาเป็น “วัดกระซ้าขาว” เพื่อให้เหมาะสมกับชื่อหมู่บ้าน นักท่องเที่ยวสามารถสักการะพระประธานในอุโบสถ และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์วาฬบรูด้าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่วัดได้
ศาลเจ้าพ่อแป๊ะกง
ศาลเจ้าเก่าแก่ที่เป็นที่นับถือของชาวไทยเชื้อสายจีนในหมู่บ้าน

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

จุดชมวิววิถีชีวิตชาวเล
นักท่องเที่ยวสามารถชมบรรยากาศริมทะเลตรงบริเวณปากคลองวัดกระซ้าขาว (คลองบางหัวนอน) เมื่อหันหน้าเข้าหาทางวัดจะเห็นเรือรุนสีสันสวยงามจอดเรียงรายเป็นบรรยากาศที่สวยงามยิ่งนัก
พิพิธภัณฑ์วาฬบรูด้า
นักท่องเที่ยวสามารถชมซากกระดูกวาฬบรูด้าขนาดใหญ่ พร้อมศึกษาข้อมูลสายพันธุ์วาฬบรูด้าชนิดต่าง ๆ ณ พิพิธภัณฑ์วาฬบรูด้า วัดกระซ้าขาว

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

วิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหารทะเลบ้านกระซ้าขาว
นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมการผลิตอาหารทะเลแปรรูปและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของชุมชนแห่งนี้ได้ ในราคาย่อมเยา

กิจกรรมการท่องเที่ยว

ชมบรรยากาศริมทะเลยามเย็น
ริมทะเลกระซ้าขาว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาพักผ่อนรับประทานอาหารเย็น ที่ร้านอาหารริมทะเล ที่ชุมชนกระซ้าขาว

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม