วัดไชโยวรวิหาร

ที่ตั้ง ตำบลไชโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง
๑. วัดไชโยวรวิหาร เป็นวัดพระอารามหลวงชั้นโท เดิมเป็นวัดราษฎร์เก่าแก่ มีนามว่า วัดไชโย ครั้นเมื่อสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตารามได้เลือกวัดนี้เป็นที่สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ตั้งอยู่กลางแจ้ง กล่าวว่าการก่อสร้างพระพุทธรูปนี้ใช้เวลานานเกือบ 3 ปี ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จึงเสร็จ แล้วสมเด็จพุฒาจารย์ได้ถวายวัดไชโยเป็นวัดหลวง ได้รับพระราชทานนามว่า “วัดเกษไชโย”
พระวิหาร มีความสูงใหญ่มากแห่งหนึ่ง รูปทรงแปลกตา ด้านนอกมีรูปทวารบาลลายรดน้ำ เป็นรูปเสี้ยวกวาง เสาหารด้านหน้า-หลังพระวิหารมีขนาดใหญ่โตมากภายในพระอุโบสถ พระประธานเป็นพระพุทธรูปปั้นปางสมาธิ ผนังทุกด้านมีภาพจิตรกรรมฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเรื่องพุทธประวัติ ภาพเหล่าทวยเทพที่วิจิตรงดงาม ยังอยู่ในสภาพที่ดี บานประตูแกะสลักอย่างประณีต
สิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้ ได้แก่ พระมหาพุทธพิมพ์ หรือที่เรียกว่า หลวงพ่อโต เป็นฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ มีพุทธลักษณะที่โดดเด่นกว่ายุคสมัยที่ไม่ยึดแนวอุดมคติตายตัว พระพักตร์และพระกรรณจึงเหมือนคนธรรมดามากกว่า มีริ้วรอยย่นของ สบง จีวร ชัดเจน
นอกจากจะเป็นวัดสำคัญของอำเภอไชโยแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประชาชนรู้จักวัดนี้เป็นอย่างดี ได้แก่ “พระสมเด็จเกษไชโย” พระเครื่องที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณนานัปการ
๒. วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
0๖.00 – 18.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
๓. ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ –
๔. เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
08 3586 2696
๕. ช่องทางออนไลน์
Facebook Fanpage : วัดไชโยวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นโท
๖. สิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องน้ำ / ทางลาด / ที่จอดรถ / จุดบริการนักท่องเที่ยว / ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

วัดป่าเลไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรี

ที่ตั้ง 249 ถนนมาลัยแมน ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
๑. วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี เป็นวัดเก่าแก่ คู่บ้านคู่เมือง จ.สุพรรณบุรี วัดป่าเลไลยก์ สร้างขึ้นในระหว่างช่วงสมัยอู่ทอง และอาจเก่าจนเลยถึงสมัยลพบุรี โดยไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัด แต่จากหลักฐานทางศิลปะ และจารึกในพงศาวดาร ทำให้เชื่อได้ว่ามีอายุไม่น้อยกว่า 1200 ปี จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อปีพ.ศ. 2478 โดยวัดป่าเลไลยมีโบราณสถาน สำคัญคือ วิหารหลวงพ่อโต เป็นองค์ประธานของวัด ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อโต บริเวณระเบียงคต ยังมีจิตรกรรมฝาผนัง วรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ให้ได้ชมกันอีกด้วย นอกจากนี้ ด้านทิศใต้ของวัดป่าเลไลยก์ ยังมีศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยสุพรรณบุรี เป็นวิสาหกิจชุมชนเกษตรพอเพียง อนุรักษ์พันธุ์กล้วยหายากในประเทศไทย และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวสุพรรณบุรีอีกด้วย
๒. วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
เปิดให้บริการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
๓. ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ –
๔. เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
 09 2590 9595
๕. ช่องทางออนไลน์
https://www.facebook.com/Watpalalaiworawihan/
๖. สิ่งอำนวยความสะดวก
 ห้องน้ำ / ทางลาด / ที่จอดรถ / จุดบริการนักท่องเที่ยว / ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง หรือวัดพระโต

ที่ตั้ง ถนนขุขันธ์ ตำบลเมืองเหนือ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
๑.วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวงหรือวัดพระโต เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดศรีสะเกษ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๓๒๘ เป็นปีที่เจ้าเมืองศรีสะเกษ คนที่ ๒ พระยาวิเศษภักดี (ชม) ย้ายเมืองศรีสะเกษ จากที่ตั้งเดิมบ้านโนนสามขาสระกำแพงมายังเมืองศรีสะเกษ ซึ่งในขณะนั้นมีคนพบหลวงพ่อโต ภายใน ใจกลางป่าแดงจึงได้อุปถัมภ์บำรุง โดยสร้างวัดขึ้นบริเวณที่พบหลวงพ่อโต ตั้งชื่อว่า “วัดพระโต หรือวัดป่าแดง” ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “วัดมหาพุทธาราม” ภายในวิหารวัดประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมือง ศรีสะเกษ จากคำบอกเล่า หลวงพ่อโตองค์จริง ถูกหุ้มอยู่ข้างใน เป็นพระพุทธรูปหินดำเกลี้ยง (บางแห่งว่าหินเขียว บางแห่งว่าหินแดง) ปางมารวิชัย เป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดศรีสะเกษและผู้มาเยือน เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
เปิดบริการ : ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ : ๐๖.๐๐น. – ๑๘.๐๐น.
๓.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ –
๔.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
พระมหาสิงโห รักษาการเจ้าอาวาสวัด เบอร์โทร : ๐๘ ๐๒๘๐ ๔๑๔๙
๕.ช่องทางออนไลน์
เพจ facebook : “วัดพระโต อำเภอเมืองศรีสะเกษ”
๖.สิ่งอำนวยความสะดวก /ห้องน้ำ/ที่จอดรถ/ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมวัดโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร

ชุมชนวัดโพธิ์ประทับช้างตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านสายเก่า เป็นชุมชนที่มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและธรรมชาติที่สวยงามโดยชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และมีวัดโพธิ์ประทับช้างเป็นศูนย์รวมจิตใจ  สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2242 อีกทั้งยังเป็นถิ่นประสูติของสมเด็จพระเจ้าเสือ (สมเด็จพระสรรเพชรญ์ที่ 8)

ชุมชนคุณธรรมวัดโพธิ์ประทับช้าง เป็นชุมชนที่มีทั้งแหล่งท่องเที่ยงเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ที่มีความงดงามของสถาปัตยกรรมสมัยเขาพระเจ้าเสือ ภายในอุโบสถวัดโพธิ์ประทับช้างมีพระพุทธรูป “หลวงพ่อโต” อายุกว่า 300 ปี นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยงเชิงเกษตรและธรรมชาติที่สวยงาม

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดโพธิ์ประทับช้าง
นมัสการหลวงพ่อโต “หลวงพ่อโต” วัดโพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตรหรือ “หลวงพ่อยิ้ม” พระพุทธรูปโบราณอายุกว่า 300 ปี พระประธานประจำอุโบสถวัดโพธิ์ประทับช้าง สร้างโดย “พระเจ้าเสือ” พระมหากษัตริย์สมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อเป็นที่ระลึกถึงมาตุภูมิของพระองค์

โบราณสถาน วัดโพธิ์ประทับช้าง
เป็นโบราณสถานเก่าแก่มาก เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 300 ปี สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยา นักท่องเที่ยวจะได้เห็นวัดโบราณที่ถือว่ายังคงมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เพียงแค่เป็นโบราณสถาน และยิ่งเป็นศิลปะแบบอยุธยาด้วยแล้วสวยงามมาก

ศาลพระเจ้าเสือ
ศาลสมเด็จพระเจ้าเสือ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าเสือ หรือพระสรรเพชญ์ที่ 8 พระมหากษัตริย์องค์ที่ 29 แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีถิ่นประสูติ ณ แผ่นดินเมืองพิจิตร โดยในทุกปีจะมีพิธีบวงสรวง มีการแสดงการชกมวยไทย และการตีไก่ ซึ่งเป็นกีฬาที่ทรงชื่นชอบด้วย

ตลาดดอกเดื่อ
“ตลาดดอกเดื่อ” บ้านโพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร เปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เชิญกันได้นะเจ้าคะ มีอาหารอร่อยให้ท่านเลือกทาน วัดเก่าริมน้ำบรรยากาศยามเย็น “ตลาดดอกเดื่อ ตลาดโบราณ ย้อนตำนานพระเจ้าเสือ”

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

ต้นตะเคียนใหญ่
ที่หน้าวัดยังมีต้นตะเคียนใหญ่ กล่าวกันว่า อายุมากกว่า 250 ปี วัดโดยรอบต้องใช้คนถึง  7 คนในการโอบให้รอบ เป็นที่อาศัยของนกแก้วจำนวนมาก ยังมีนกพิราบมาอาศัยอยู่อีกด้วย   วัดโดยรอบได้ 7 เมตร 60  เซนติเมตร ปัจจุบันได้โค่นล้มลง ชาวบ้านจึงได้เชิญมาไว้เป็นศาลาแม่ย่าตะเคียน

แม่น้ำพิจิตรสายเก่า วัดโพธิ์ประทับช้าง
แม่น้ำพิจิตรสายเก่า ไหลผ่านที่บริเวณวัดโพธิ์ประทับช้าง โดยการนั่งเรือชมหิ่งห้อย เป็นเส้นทางจุดชมหิ่งห้อย มีระยะทาง 1 กิโลเมตร รวมไป – กลับ 2 กิโลเมตร เรือลำ 1 นั่งได้ 10 คน เที่ยวละ 200 บาท จะเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. ไปจนถึงเวลาประมาณ 21.00 น.

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

เที่ยวชมสวนส้มโอ

กิจกรรมการท่องเที่ยว

ล่องเรือชมหิ่งห้อย
ริมแม่น้ำพิจิตรสายเก่าวัดโพธิ์ประทับช้างแม่น้ำพิจิตรสายเก่า ไหลผ่านที่บริเวณวัดโพธิ์ประทับช้าง โดยการนั่งเรือชมหิ่งห้อย เป็นเส้นทางจุดชมหิ่งห้อย มีระยะทาง 1 กิโลเมตร รวมไป – กลับ 2 กิโลเมตร เรือลำ 1 นั่งได้ 10 คน เที่ยวละ 200 บาท จะเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. ไปจนถึงเวลาประมาณ 21.00 น.

ชมนกแก้ว และนกนานาชนิด
ต้นตะเคียนใหญ่วัดโพธิ์ประทับช้างนกแก้วโม่ง นกแก้วกะลิง นกแก้วคอแหวนสีกุหลาบ และนกแขกเต้า นกแก้วในธรรมชาติที่หาดูยากแต่ที่วัดโพธิ์ประทับช้างมีให้ดูตลอดทั้งปี เพราะรอบบริเวณวัดร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่ให้นกแก้วอยู่อาศัย โดยเฉพาะบนต้นตะเคียนทองโบราณ” บริเวณหน้าอุโบสถวัดโพธิ์ประทับช้าง จะพบเห็นนกแก้วมากที่สุด 

การแสดงแสงสีเสียง วันเพ็ญเดือนห้า
วัดโพธิ์ประทับช้าง เปิดการแสดง แสงสีเสียง ย้อนตำนาน พระเจ้าเสือ ในงานเพ็ญเดือนห้า ชิมส้มโอหวาน ย้อนตำนานพระเจ้าเสือ ณ วัดโพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร โดยงานเพ็ญเดือนห้า  ชิมส้มโอหวาน ย้อนตำนานพระเจ้าเสือ จัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน เพื่อเป็นการรำลึกถึงสมเด็จพระสรรเพชญ์ ที่ 8 หรือ พระเจ้าเสือ

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมวัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ

ชุมชนคุณธรรมวัดบางพลีใหญ่ใน เป็นชุมชนที่มีความโดดเด่นทางด้านศาสนาและวัฒนธรรม โดยมีหลวงพ่อโต วัดบางหลีใหญ่ใน และประเพณีรับบัว ซึ่งเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก แห่งเดียวในประเทศไทย เป็นชุมชนที่ยึดเอาความยั่งยืนของชุมชนและความสุขเป็นตัวตั้ง สอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชนอย่างแท้จริง 

หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย (สะดุ้งมาร) องค์พระเป็นทองสำริดทั้งองค์ หน้าตักกว้าง 3 ศอก 1 คืบ ลืมพระเนตร เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดบางพลีใหญ่ในได้รับการกล่าวขวัญถึงความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพสักการะของชาวบางพลีและพุทธศาสนิกชนทั่วไป

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย (สะดุ้งมาร)
ตลาดน้ำโบราณบางพลี
เป็นตลาดเก่าแก่ที่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์และยังคงบรรยากาศ วิถีชีวิตริมคลองที่เรียบง่าย

 แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

ตลาดโบราณบางพลี
เป็นชุมชนที่มีพื้นที่ติดลำคลอง 2 สาย เช่น คลองสำโรง และคลองบางพลี คลองสำโรง, ตลาดโบราณบางพลี, วัดบางพลีใหญ่กลางวัดบางโฉลงนอก,วัดบางโฉลงใน

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

นายศักดิ์พัฒ รักษาชล บ้านคลองบางพลี ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านคลองบางพลี ต้นแบบสร้างองค์ความรู้ด้านเกษตรในสังคมเมือง

กิจกรรมการท่องเที่ยว

วัดบางพลีใหญ่ใน
วัดบางพลีใหญ่ใน วัดพลับพลาชัยชนะสงคราม ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงเรียกวัดนี้ว่าวัดใหญ่ หรือ วัดหลวงพ่อโต จากโบราณคดีจารึก ว่าวัดนี้สร้างขึ้นในสมัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในปี พ.ศ.๒๓๑๐
นมัสการหลวงพ่อโต
วัดบางพลีใหญ่ใน ชาวบ้านบางพลีต่างเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์และบารมีของหลวงพ่อโตได้คุ้มครองชาวบางพลี ให้ปลอดภัย บางคนนำน้ำมนต์ของหลวงพ่อไปดื่มเพื่อความเป็นสิริมงคล

ตลาดน้ำโบราณบางพลี
ตลาดน้ำโบราณบางพลี เป็นตลาดน้ำที่มีความเก่าแก่ เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้านานาชนิด 
ศูนย์เรียนรู้สาธิต จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน
ตลาดน้ำโบราณบางพลีการทำกระยาสารทน้ำอ้อย และการทำหมี่กรอบ
ศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรม
ตลาดน้ำโบราณบางพลี การมาสัมผัสวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของชาวบางพลีที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม