เรียนรู้วิถีชีวิตเส้นทางสายไหมศูนย์ศิลปวัฒนธรรมผู้ไทยผ้าไหมแพรวาบ้านโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์

ที่ตั้ง บ้านโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์

๑.ชื่อยี่ห้อ/แบรนด์ ศูนย์วัฒนธรรมภูไท
๒.ชื่อผู้ประกอบการ
นายประวิทย์ วงษ์เจริญ กำนันตำบลโพน นายสำเนียง ปัสสะ ผู้ใหญ่บ้าน
3. ชื่อผลิตภัณฑ์ ผ้าไหมแรพวา
ศูนย์เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมของชาวผู้ไทย เป็นศูนย์เรียนรู้บอกเล่าความเป็นมาของชาวบ้านโพนตั้งแต่การตั้งถิ่นฐาน วิถีชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมการทอผ้าไหมแพรวา และเป็นสถานที่ต้อนรับแขกผู้มาเยือนบ้านโพน และมีร้านค้าที่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมแพรวาหลายประเภท รอให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมและซื้อเป็นของฝาก ของที่ระลึก
๔.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิดทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด
๕.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
นายประวิทย์ วงษ์เจริญ กำนันตำบลโพน
โทร. 08 7107 8109
นายสำเนียง ปัสสะ ผู้ใหญ่บ้าน
โทร. 08 6222 4838
๖.ช่องทางออนไลน์
Facebook : ศูนย์เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมของชาวผู้ไทย

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

สักการะพระพุทธรูปไสยาสน์ตะแคงซ้าย วัดพุทธนิมิตภูค่าว จังหวัดกาฬสินธุ์

ที่ตั้ง : บ้านนาสีนวล ตำบลสหัสขันธ์ อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

๑. วัดพุทธนิมิตภูค่าว เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไสยาสน์ตะแคงซ้าย ไม่มีเกตุมาลา ชมอุโบสถไม้ที่งดงามโดยก่อสร้างจากไม้ ขนาดใหญ่นำขึ้นมาจากใต้เขื่อนลำปาว และวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและพระเครื่องจำนวนมาก และพระมหาธาตุเจดีย์ที่ สร้างจากหินทรายเฉพาะยอดมหาธาตุเจดีย์มีมูลค่ากว่า ๒๕ ล้านบาท มีทั้งทองคำ ๓o กิโลกรัม และประดับตกแต่งด้วยเพชรนิลจินดาจำนวนมาก นอกจากนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากประเทศเนปาลด้วยซึ่งความสวยงามและ ความขลังของวัดแห่งนี้ทำให้มีประชาชนจำนวนมาก เดินทางมาท่องเที่ยวไม่ขาดสาย
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
ทุกเช้าวันเสาร์
๓.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ (ไม่มี)
๔.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
เบอร์โทร : 0 4381 1620
๕.ช่องทางออนไลน์
องค์การบริหารส่วนตำบลสหัสขันธ์
๖.สิ่งอำนวยความสะดวก ห้องน้ำ/ทางลาด/ที่จอดรถ/ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว/ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ไร่นาสวนผสม หาดสวนแก้ว จังหวัดกาฬสินธุ์

ที่ตั้ง บ้านวังมะพลับ หมู่ที่7 ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

๑. เป็นไร่นาสวนผสม มีพื้นที่ติดกับเขื่อนลำปาวตรงกันข้ามกับแหลมโนนวิเศษ มีพื้นที่ประมาณ 60 ไร่ โดยจะปลูกพืชผัก และผลไม้ยืนต้นหลายชนิด ที่ลงมือทำอย่างต่อเนื่อง และตั้งอยู่บนพื้นที่ติดเขื่อนลำปาว จึงทำให้เกิดเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องการเกษตร ควบคู่ไปกับการพักผ่อนหย่อนใจ มีกิจกรรมการเรียนรู้ ที่พร้อมทั้งที่พัก ฐานกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรมเพื่อสานสัมพันธ์ร่วมกันภายในครอบครัวได้เป็นอย่างดีมีโฮมสเตย์, แค้มป์ไฟ อาหารพื้นบ้านนั่งเรือหางยาวชมวิถีชาวประมงและทิวทัศน์เขื่อนลำปาว
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
เปิดทุกวัน เวลา 16.00 – 22.00 น.
๓.ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว เดือนตุลาคม-เดือนกุมภาพันธ์

๔.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่างๆ -ค่าบริการสถานที่ปิกนิก/ชมสวน ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท/ครั้ง(ออกไม่เกิน 22.00น.) เด็กเล็ก ฟรี
-ค่าบริการสถานที่พักแรม/กางเต็นท์ คนละ 80 บาท/คืน
๕.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
09 5169 1165/09 5662 1379
๖.ช่องทางออนไลน์
Facebook: หาดสวนแก้วแคมป์(สวนตาเข็มทิศ @Suankaew2563
๗.สิ่งอำนวยความสะดวก ห้องน้ำ/ทางลาด/ที่จอดรถ/จุดบริการนักท่องเที่ยว/ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

สะพานเทพสุดา อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

ที่ตั้งเลขที่ 200 หมู่ที่ 11 ตำบล โนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

๑.สะพานเทพสุดา เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 2 ช่องจราจร ข้ามเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ จากบริเวณแหลมโนนวิเศษ ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ ถึงบริเวณเกาะมหาราช ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรีเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2549 ใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 498,850,000 บาท ความยาว 2,040 เมตร ถนนต่อเชื่อมโครงการผิวจราจรกว้าง 7 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 2.50 เมตร ภายใต้การกำกับดูแลของกรมทางหลวงชนบท สร้างเสร็จในเดือนธันวาคม 2553 ถือเป็นสะพานข้ามน้ำจืดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2553 และเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดสะพานเทพสุดาอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ออกแบบประติมากรรมรูปหล่อไดโนเสาร์ ติดตั้งบริเวณราวสะพานทั้ง 2 ข้าง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดกาฬสินธุ์ บนสะพานเทพสุดา สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามบริเวณพื้นที่อ่างเก็บน้ำลำปาวได้อย่างชัดเจน สนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดกาฬสินธุ์ และการท่องเที่ยวในภูมิภาค
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่ เปิดบริการทุกวัน
๓.ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว (เดือนเมษายนในห้วงเทศกาล สงกรานต์)
๔.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่างๆ (ไม่มี)
๕.กิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจ
– ล่องแพ ชมทิวทัศน์แม่น้ำปาว ชมพระอาทิตย์ยามสนธยา
– ตกปลา /ชมวิถีชีวิตชาวประมง
๖.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม 0 6162 8755,08 1953 6804
๗.ช่องทางออนไลน์ เพจ:การท่องเที่ยวอำเภอสหัสขันธ์ ,
๘.สิ่งอำนวยความสะดวก ห้องน้ำ/ทางลาด/ที่จอดรถ /จุดบริการนักท่องเที่ยว/ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

พิพิธภัณฑ์สิรินธร อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

ที่ตั้งเลขที่ 200 หมู่ที่ 11 ตำบล โนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

๑.เป็นแหล่งที่พบโครงกระดูกไดโนเสาร์กินพืชที่มีความสมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีว่า “พิพิธภัณฑ์สิรินธร” เดิมเป็นศูนย์วิจัยไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว ในปี พ.ศ.2537 พบโครงกระดูกของไดโนเสาร์กินพืชภูเวียงโกซอรัสสิรินธรเน ในบริเวณที่เป็นหลุมขุดค้นปัจจุบัน โดยพระครูวิจิตรสหัสคุณ เจ้าอาวาสวัดสักกะวัน ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2537 เป็นต้นมา คณะสำรวจไดโนเสาร์จากกรมทรัพยากรธรณีจึงได้เริ่มทำการขุดค้นอย่างเป็นระบบ และพบว่า ภูกุ้มข้าว เป็นแหล่งที่พบโครงกระดูกไดโนเสาร์กินพืชที่มีความสมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย มีการพบโครงกระดูกไดโนเสาร์ขนาดต่างๆ เป็นกระดูกชนิดกินพืชมากกว่า 7 ตัว จำนวนกระดูกมากกว่า 700 ชิ้น ที่สำคัญคือ พบชิ้นส่วนของหัวกระโหลก ฟันและกราม และโครงกระดูกที่เรียงรายต่อกัน เกือบจะสมบูรณ์ทั้งตัวอยู่ด้วย โครงกระดูกทั้งหมดอยู่ในชั้นหินที่วางตัวอยู่บนไหล่เขาของภูกุ้มข้าวซึ่งมีรูปร่างคล้ายลอมฟาง มีความสูงประมาณ 240 เมตร
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่

วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.30-16.30 น. * ปิดทุกวันจันทร์ *
๓.ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว เดือนแห่งวิทยาศาสตร์ เดือนสิงหาคม และช่วงปิดภาคการศึกษา
๔.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่างๆ
ผู้ใหญ่ 40 บาท อายุ ๖๐ ปีขึ้นไปเข้าชมฟรี
เด็ก 10 บาท อายุไม่เกิน 12 ปี
ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท
เด็ก 50 บาท อายุไม่เกิน 12 ปี

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ร้านอาหารลี่กินแซ่บเฮียช้าง/ร้านตำกะเทยกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

ที่ตั้ง 170/2 หมู่ที่ 4 ถนนกาฬสินธุ์ – ร้อยเอ็ด บ้านเตาไห ตำบลหลุบ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
๑. เป็นร้านอาหารที่เก่าแก่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่เปิดมาตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งท่านได้เดินทางมารับประทานอาหารร้านนี้ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีชื่อร้าน ซึ่งเป็นร้านอาหารอีสานที่ขึ้นชื่อในเมืองกาฬสินธุ์ ท่านพอใจในรสชาติของอาหารจึงพูดขึ้นว่า “แซบอีหลีจึงได้กลายเป็นชื่อร้านตามคำพูดของท่านตั้งแต่นั้นมาว่า“ร้านแซบอีหลี” สืบเนื่องมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันที่ 21 พ.ย.2554 จึงได้เกิดตำนานแซบอีหลี สู่ ลี่กินแซบ ขึ้นในนาม “เฮียช้าง ลี่กินแซบ” ร่วมระยะเวลา ประมาณ 100 ปี
2.เมนูเด่น/เมนูแนะนำ
2.1 ไส้กรอกอิสาน 2.2. ส้มตำไทย -ลาว.
2.3. อ่อมเนื้อลาย ๒.๔ ก้อยผง /ก้อยขม
๒.๕ ต้มแซ่บ ๒.๖ หมูแดดเดียว
3.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของร้าน
เปิดทุกวัน เวลา 0๘.๓๐ น.-๑๕.๓๐ น.
๔.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
09 3054 5920 , 08 8056 4161
๕.ช่องทางออนไลน์
เพจ:ลี่กินแซ่บเฮียช้าง

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

วัดสว่างหัวนาคำ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์

ที่ตั้ง ๒ ตำบลหัวนาคำ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์
๑.บ้านหัวนาคำ เป็นชุมชนที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา มีความรักใคร่ปรองดอง สมัครสมานสามัคคี เป็นชุมชนที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และเป็นชุมชนที่ใหญ่ มีครัวเรือนกว่าหนึ่งพันครัวเรือน โดยมีวัดสว่างหัวนาคำ เป็นศูนย์รวมจิตใจ และทำกิจกรรมตามฮีตสิบสองคองสิบสี่ เป็นวัดเก่าแก่ประจำหมู่บ้าน ศาสนสถานในวัดมีพระอุโบสถสิมอีสานไม้พันชาติที่มีความสวยงามมาก มีพระพุทธรูปประจำวัดคือ หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 22-23 เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยล้านช้าง เป็นที่เลื่อมใส เคารพบูชาของชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนทั่วไป เรียกว่าหลวงพ่อศิลา ซึ่งวัดได้จัดเตรียมพานขันหมากเบ็งให้ผู้มาเที่ยวชมได้นำไปสักการะ ศาลาทานบารมีหน้าศาลาการเปรียญเป็นศาลาลักษณะทรงไทย เสาไม้ทั้งหลังทำบุญตักบาตร ๑๐๘ บาตร ชมสวนดอกไม้ พันธุ์ดอกไม้ประดับ สวยงามบริเวณวัด และสาธิตการจัดทำร่มผ้าขาวม้า
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๖.๓๐ น.๑๘.๐๐ น.
๓.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ –
๔.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม พระครูศรีปริยัติโชติธรรม เจ้าอาวาสวัดสว่างหัวนาคำ เจ้าคณะอำเภอยางตลาด ๐๘ ๕๐๑๑ ๑๔๑๙
๕.ช่องทางออนไลน์
เพจ:วัดสว่างหัวนาคำ จ.กาฬสินธุ์
วัดสว่างหัวนาคำ 
พระครูศรีฯวัดสว่างหัวนาคำ
ชื่อผู้ประกอบการร่มผ้าขาวม้า นางกาย สีสารคาม
เบอร์โทรศัพท์ ๐๘ ๑๖๖๑ ๙๗๕๙
เฟซบุ๊ก ภูฟ้า เครื่องนอน
๖.สิ่งอำนวยความสะดวก/ห้องน้ำ/ ทางลาด/ที่จอดรถ/ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว/ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมบ้านโนนบุรี จังหวัดกาฬสินธุ์

บ้านโนนบุรี อยู่ห่างจากตัวจังหวัด 32 กิโลเมตร ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2525 มีเนื้อที่ 7.5 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ลาดเชิงเขา มีภูเขาที่สำคัญคือ ภูสิงห์ และภูกุ้มข้าว มีจำนวนครัวเรือน 248  ครัวเรือน 

เป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งทางวัฒนธรรม มีทรัพยากรทางธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมผ่านกิจกรรมที่โดดเด่นซึ่งดำเนินการโดยชุมชน 

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดพุทธาวาส (ภูสิงห์)
ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูสิงห์ อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งของภาคอีสานซึ่งพุทธศาสนิกชนให้ความเคารพคือ พระพรหมภูมิปาโล ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 10.5 เมตร สูง 17.80 เมตร สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2511 

 แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

พิพิธภัณฑ์สิรินธร
ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นพิพิธภัณฑ์ทางธรรมชาติวิทยา ภายในจัดแสดงซากกระดูกไดโนเสาร์และความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตทั้งเชิงวิชาการและการอนุรักษ์ 

สะพานเทพสุดา
เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 2 ช่องจราจร สร้างขึ้นเพื่อเป็นสะพานข้ามเขื่อนลำปาว จากบริเวณแหลมโนนวิเศษ ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ ถึงบริเวณเกาะมหาราช ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรีก่อสร้างเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2549 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2553 และเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดสะพานเทพสุดาอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2554

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สวนอินทผาลัมสุพรรณ์
ตั้งอยู่ที่บ้านโสกทราย  หมู่ 8  ตำบลสหัสขันธ์  อำเภอสหัสขันธ์  จังหวัดกาฬสินธุ์

กิจกรรมการท่องเที่ยว

การแสดงรำวงคองก้า
ชุมชนโนนบุรีการแสดงรำวงคองก้า เป็นการแสดงท้องถิ่นที่มีเสน่ห์และคุณค่าทางวัฒนธรรม ชาวชุมชนได้นำรำวงคองก้ามาจัดแสดงให้ผู้ที่มาพักโฮมสเตย์ได้รับชมและร่วมรำวงเพื่อความสนุกสนานและร่วมสัมผัสวิถีชุมชน

ถนนสายบุญ
ถนนไดโนโรดนักท่องเที่ยวที่มาพักโฮมสเตย์  จะได้ร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตรร่วมกับผู้คนท้องถิ่นเพื่อความเป็นสิริมงคลและสัมผัสวิถีชุมชน

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมวัดสว่างหัวนาคำ จังหวัดกาฬสินธุ์

เป็นชุมชนขนาดใหญ่กว่าหนึ่งพันครัวเรือน คนในชุมชนมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา มีความรักใคร่ปรองดอง สมัครสมานสามัคคี และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ 

อุโบสถสิมอีสานไม้พันชาติ เป็นอุโบสถที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้านศิลปะล้านช้างผสมศิลปะล้านนา โดยมีเสาและผนังเป็นไม้พันชาติซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็ง และส่วนใหญ่สร้างจากไม้พันชาติ จึงให้ชื่อว่าอุโบสถสิมอีสาน    ไม้พันชาติ เป็นอุโบสถที่วิจิตรงดงามและทรงคุณค่าด้านศิลปะ

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดสว่างหัวนาคำ
เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ ๒๒-๒๓ และมีอุโบสถสิมอีสานไม้พันชาติ

วัดป่าอัมพวัน
เป็นวัดเก่าแก่ มีพื้นที่ขนาดใหญ่และร่มรื่น

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

ทุ่งทานตะวันสีทอง หนองทึง
เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ของตำบลหัวนาคำ ในช่วงเดือนธันวาคม ถึงเดือนมกราคม ดอกทานตะวันจะบานสะพรั่งพร้อมให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมและถ่ายภาพ

สวนกวางโอเคกาฬสินธุ์
ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ ทุ่งทานตะวันสีทอง หนองทึง

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ไร่อุ่น ฮักสวนเฮา
เป็นสวนเกษตรแบบผสมผสาน โดยมี ด.ต.โสภัณฑ์ ภูพานทอง อดีตนายกเทศมนตรีตำบลหัวนาคำ เป็นเจ้าของ

กิจกรรมการท่องเที่ยว

ทำบุญตักบาตร
วัดสว่างหัวนาคำชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนทำบุญตักบาตร ณ บริเวณรอบอุโบสถสิมอีสานไม้พันชาติ ในช่วงก่อนเข้าพรรษาและวันออกพรรษา

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม