ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ

ที่ตั้งตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
๑. เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่เรียนรู้เชิงเกษตรที่จัดสรรพื้นที่ตามทฤษฎีเกษตรทฤษฎีใหม่และเป็นแหล่งให้ความรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้เด็ก และเยาวชน รวมทั้งประชาชนได้มาศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตแบบพอเพียง ภายในมีการสาธิตพื้นที่นา พื้นที่เพาะปลูก พื้นที่เลี้ยงสัตว์ พื้นที่กักเก็บน้ำ และพื้นที่พักอาศัย นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับสัตว์เลี้ยงต่างๆ อาทิ ไก่ เป็ด แพะ เป็นต้น โดยภายในศูนย์ฯมีร้านกาแฟไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อน ผู้ที่สนใจเข้าดูงานและทำกิจกรรมเป็นหมู่คณะสามารถติดต่อทางศูนย์ฯได้
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
วันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.
(หยุดวันจันทร์)
๓.ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว (ช่วงเดือน)
เที่ยวได้ทั้งปี
๔.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่างๆ (ไม่มี)
๕.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
โทร. 06 4932 1838, 06 3587 9963,
08 1817 6037
๖.ช่องทางออนไลน์
Facebook : ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ
๗.สิ่งอำนวยความสะดวก ห้องน้ำ/ที่จอดรถ/ร้านอาหาร 

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ศูนย์การเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชา สวน ๓ ก จ.ปราจีนบุรี

ที่ตั้ง บ้านเลขที่ 1 หมู่ ๙ ต.บางพลวง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี
๑. สวนเกษตรที่พัฒนามาจากที่ลุ่มน้ำท่วมถึงมีการสร้างโคกขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำท่วม บ่อที่ทำการขุดดินขึ้นมาก็เลี้ยงปลาอีกทางหนึ่ง ทำการเกษตรแบบพึ่งพาตนเอง ทำสวนไผ่ ที่ทนแล้ง ทนน้ำท่วม เพื่อให้ได้ผลผลิตทั้งปี ขายหน่อไม้สด และแปรรูปหน่อไม้ที่ได้เพื่อเพิ่มมูลค่า เพราะมีตลาดที่รับซื้อรองรับผลิตภัณฑ์ มีการปลูกยางนา เผาถ่าน ปลูกขี้เหล็ก นำใบมาต้มขาย เป็นต้น มีการปลูกไม้เศรษฐกิจ ไม้กินได้ ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงมาเป็นหลักในการทำการเกษตร ทำเกษตรแต่พอกำลัง ไม่กู้หนี้ยืมสินมาเมื่อมีความรู้จากการลงมือทำก็สามารถต่อยอดเป็นแหล่งเรียนรู้ให้บุคคลทั่วไปที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงานได้
๒. วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
09.00 น. – 16.00 น.
๓. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว (ช่วงเดือน)
มกราคม – พฤษภาคม ก่อนช่วงฤดูฝน
๔. ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ –
๕. เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
ส.อ. ปัญจะ สกุลนคร โทรศัพท์ ๐๙ ๘๔๗๓ ๘๕๓๓
๖. ช่องทางออนไลน์ –
๗. สิ่งอำนวยความสะดวก/ห้องน้ำ/ที่จอดรถ/ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

กลุ่มแม่บ้านแสงตะวัน (ศูนย์การเรียนรู้ผ้าใยกล้วยบัวหลวงชุมชนวัดไก่เตี้ย) จังหวัดปทุมธานี

ที่ตั้ง ตำบลกระแชง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
๑.ชื่อยี่ห้อ/แบรนด์ ผ้าใยกล้วยบัวหลวง
๒.ชื่อผู้ประกอบการ นางสาวบุญนภา บัวหลวง ชุมชน วัดไก่เตี้ย
๓.ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น
๓.๑ชื่อผลิตภัณฑ์ ผ้าใยกล้วยบัวหลวง ผลิตภัณฑ์ผ้าใยกล้วย เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากใยกล้วย นำมาทอเป็นผืนผ้า โดยลวดลายผ้าที่ดำเนินการผลิตเป็นตาหมากรุก ผ้าใยกล้วยบัวหลวงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคนิคการผลิตเป็นการนำเส้นใยกล้วยมาทอเป็นผืนผ้า โดยมีหลากหลายสีสัน
๔.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
๐๘.๓๐ น. – ๑๖.๓๐ น.
๕.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
๐๙ ๔๔๓๘ ๖๕๘๗
๖.ช่องทางออนไลน์
Facebook ผ้าใยกล้วยบัวหลวงที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ศูนย์การเรียนรู้ กลุ่มเสื่อบ้านท่าแฉลบ จังหวัดจันทบุรี

ที่ตั้ง 132 หมู่ 9 ตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี 22000
๑.ชื่อยี่ห้อ/แบรนด์ เสื่อจันทร์
๒.ชื่อผู้ประกอบการ คุณณิชชากัญญ์ วงษ์จีนเพชร
๓.ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น
๓.๑ ชื่อผลิตภัณฑ์ กระเป๋าจากเสื่อกก ประดับตกเเต่งด้วยเงินและพลอย รายละเอียดความโดดเด่น สั้นๆ แรงบันดาลใจ: เคยทอเสื่อเป็นลายตัว S และลายหัวใจ จากนั้นนำมาตัดเย็บเป็นกระเป๋าถือ ซึ่งในส่วนของหูกระเป๋าเป็นเงิน ด้านที่เปิดเป็นแผ่นเงินประดับตกแต่งด้วยพลอยที่สวยงาม เหมาะสมที่จะใช้สวมใส่กับชุดไทย เสื่อจันทบูรซึ่งมีมานานกว่า 300 ปี เป็นกกที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาดั่งเดิมของคนจันทบุรี ในปัจจุบันมีการออกแบบลวดลายมากมาย เเต่ที่เราทำในครั้งนี้ เป็นการได้รับลายพระราชทานจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงออกแบบลายด้วยพระองค์เองเรียกว่า ลายตัวS หรือ ลายขอ เพื่อเอามาทอเป็นผ้าไหม ทางกลุ่มได้นำลายที่ได้มาประยุกต์ทอเป็นลาดลายเสื่อกก และออกแบบในการทำกระเป๋า
3.2 กระเป๋าเสื่อกก ลายขอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ มีการใช้เทคนิคการแกะลาย และลงมือทอลายเสื่อ เพื่อเป็นแม่แบบในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบต่าง ๆ โดยมีเยาวชนในพื้นที่ได้มาฝึกการทอเสื่อเพื่ออนุรักษ์สืบสานมรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น “เสื่อจันทบูร”
๔.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
เปิดทุกวัน เวลา 09:00 – 17:00 น.
๕.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
08 1864 2393
๖.ช่องทางออนไลน์
Facebook: ศูนย์การเรียนรู้กลุ่มเสื่อบ้านท่าแฉลบ

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมวัดโพธาราม จังหวัดยโสธร

ชุมชนคุณธรรม วัดโพธาราม บ้านห้องแซง เป็นชุมชนชาวพุทธ วิถีผู้ไทที่มีความสุข ความดีงามมีสภาพแวดล้อมที่ดี และมีความพร้อมในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี เป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ แบ่งปันความสุข สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวดุจญาติมิตร 

ชุมชนคุณธรรม วัดโพธาราม บ้านห้องแซง มีการอนุรักษ์สืบสานฟื้นฟูวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามมีพิธีบายศรีสู่ขวัญ และประเพณีปฏิบัติตามหลักศาสนา มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือภาษาผู้ไท อาหารพื้นถิ่น การทอผ้ามัดหมี่ภูไท คนในชุมชนแต่งกายด้วยผ้ามัดหมี่ภูไทที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดโพธาราม
เป็นแหล่งเรียนรู้ประจำชุมชน เป็นศูนย์กลาง ในการประกอบพิธีการทางศาสนา และกิจกรรมของชุมชน

ศูนย์การเรียนรู้ วิถีวัฒนธรรมภูไทห้องแซง วัดป่าจันทรวนาราม

ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชตำบลห้องแซง

ตลาดวัฒนธรรมวิถีถิ่น วิถีผู้ไท ตลาดต้องชม

ศูนย์การเรียนรู้การทอผ้า ย้อมสีธรรมชาติ

กลุ่มทอผ้าพื้นเมือง ผ้ามัดหมี่บ้านห้องแซง (แม่พลอยฝ้ายภูไท)

เสากลางบ้าน

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

อ่างเก็บน้ำห้วยลิงโจน

ภูถ้ำพระ

ภูร่มเย็นมโนธรรม (ภูตากแดด) หินสามก้อน

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

 กิจกรรมการท่องเที่ยว

การทำบุญตักบาตร
หน้าบ้านพัก โฮมสเตย์ วัดโพธาราม/ วัดป่าจันทวนาราม นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้มี ส่วนร่วมในการทำบุญตักบาตรตอนเช้า ณ บริเวณหน้าบ้านพักโฮมสเตย์ และบริเวณชุมชนฯ

การบายศรีสู่ขวัญ
วัดโพธาราม/ วัดป่าจันทวนาราม การบายศรีสู่ขวัญ  กิจกรรมพาแลง

ฐานเรียนรู้ การทำขันหมากเบ็ง
วัดโพธาราม/ วัดป่าจันทวนาราม การทำขันหมากเบ็ง บายศรี ดอกไม้ใบตอง ใบเตย

ฐานเรียนรู้ สมุนไพรพื้นบ้าน
วัดโพธาราม/วัดป่าจันทวนาราม เรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรพื้นบ้าน อาทิเช่น
-การทำลูกประคบ
-ยาต้มสมุนไพรโบราณ เป็นต้น

ฐานเรียนรู้ หมอลำ หมอแคน
วัดโพธาราม/ วัดป่าจันทวนาราม ชมและร่วมสนุกกับการแสดงของศิลปินผู้ไท (หมอลำ หมอแคน)

ฐานเรียนรู้ การจักสาน
วัดโพธาราม/ วัดป่าจันทวนาราม

ฐานเรียนรู้การละเล่นพื้นบ้าน
วัดโพธาราม/วัดป่าจันทวนาราม การละเล่นพื้นบ้าน อาทิเช่น
-ม้าโยกเยก
-ดีดบักแต้ เป็นต้น

ฐานเรียนรู้การทอผ้า
วัดโพธาราม/ วัดป่าจันทวนาราม

ฐานเรียนรู้ลงโข่ง หรือ การลงข่วง
วัดโพธาราม/ วัดป่าจันทวนาราม การลงโข่ง หรือ การลงข่วง  เป็นบริเวณที่หนุ่มสาว มาพบปะพูดคุยกัน โดย  ฝ่ายหญิงปั่นฝ้าย ฝ่ายชายเป่าแคน

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมวัดบ้านหลุก จังหวัดลำพูน

ชุมชนคุณธรรมวัดบ้านหลุก สภาพภูมิประเทศของชุมชนตั้งอยู่บนที่ราบลุ่ม เหมาะแก่การทำการเกษตร ชาวบ้านในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ค้าขาย และรับจ้างทั่วไป เป็นชุมชนที่มีความเก่าแก่ มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ วัดบ้านหลุก/หอธรรมวัดบ้านหลุก/อุโบสถ บ้านชนะดัง (บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ) เฮือนพิกุล (คุ้มมโนวรรณ) มีสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น งานแกะสลัก จักสานไม้ไผ่ อาหารแปรรูป ฯลฯ อีกทั้ง ยังมีประเพณีวัฒนธรรมที่มีความโดดเด่น เช่น สลากย้อมชาวยอง เป็นต้น

ชุมชนคุณธรรมวัดบ้านหลุก เป็นชุมชนท่องเที่ยว บวร On Tour ที่มีจุดเด่น มีเสน่ห์  อัตลักษณ์ที่โดดเด่นอยู่มากมาย โดยชุมชนคุณธรรมวัดบ้านหลุก มีนโยบายและคติประจำใจที่ว่า “พริกบ้านเหนือ เกลือป่าใต้ ข่าตะไคร้บ้านพี่บ้านน้อง” คือ การอยู่แบบพอเพียง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีการสืบสาน รักษา ต่อยอด ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมประเพณีของชาวยองไว้ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสักการะล้านนา ตลอดจนถึงวิถีชีวิต การร่ายรำ การฟ้อนของเด็กเยาวชนในชุมชน มีวัดบ้านหลุกศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดบ้านหลุก
เป็นสถานที่ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชุมชนคุณธรรม วัดบ้านหลุก อีกทั้งยังเป็นลานกิจกรรม เพื่อจัดงานต่าง ๆ ของชุมชนอีกด้วย

หอธรรมและพิพิธภัณฑ์วัดบ้านหลุก
เป็นสถานที่เก็บพระพุทธรูปเก่าและหีบธรรมโบราณของทางวัดบ้านหลุกเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ดูและศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของวัดบ้านหลุก

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

จุด check in ชุมชน และทิวท้องทุ่ง ตามเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน
เป็นสถานที่ที่เป็นจุดสำคัญของชุมชน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมเยือนชุมชนต้องบันทึกภาพไว้ อีกทั้งเส้นทางท่องเที่ยวของชุมชนบ้านหลุกแห่งนี้ ยังมีทิวทัศน์ของท้องทุ่งที่สวยงาม

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ผักกินได้ บ้านชนะดัง
ชุมชนคุณธรรมวัดบ้านหลุก เป็นชุมชนที่มีการน้อมนำเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีพ เช่น การปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ เพื่อลดรายจ่ายครัวเรือน สร้างรายได้ให้ชุมชนจากการจำหน่ายผัก ผลไม้ที่ปลูกเอง อีกทั้ง บ้านชนะดัง เศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบยังเป็นแหล่งเรียนรู้ตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของชุมชนอีกด้วย

กิจกรรมการท่องเที่ยว

การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน เช่น การฟ้อนยอง การฟ้อนหางนกยูง ฯลฯ
ลานกิจกรรม ชุมชนคุณธรรมวัดบ้านหลุก การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของชุมชนชาวยอง เช่น การฟ้อนยอง การฟ้อนหางนกยูง ฯลฯ  ซึ่งเป็นการแสดงที่สะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวยองที่อาศัยอยู่ในชุมชนบ้านหลุกแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

การสาธิตการทำขนมพื้นบ้านชาวยอง
ลานกิจกรรมวัดบ้านหลุก เป็นกิจกรรมการสาธิต และร่วมฝึกปฏิบัติทำขนมพื้นบ้านแบบชาวยอง บ้านหลุก เช่น ข้าวต้มมัด ขนมต้มโบราณ สาคูโบราณ ฯลฯ

การสาธิตการ ทำบายศรีแบบล้านนา
ลานกิจกรรมวัดบ้านหลุก เป็นกิจกรรมการสาธิต และร่วมฝึกปฏิบัติประดิษฐ์บายศรีสู่ขวัญแบบล้านนา

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมวัดทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย

ทุ่งเสลี่ยมเป็นชุมชนโบราณที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมล้านนา มีลักษณะภูมิประเทศที่โอบล้อมด้วยแนวสันเขามีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม วิถีชีวิตของคนทุ่งเสลี่ยมได้อาศัยร่มเงาแห่งพระพุทธศาสนาเป็นหลักในการดำรงชีวิตประชาชนส่วนใหญ่มีอุปนิสัยรักสงบดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

ชุมชนคุณธรรมวัดทุ่งเสลี่ยม ศูนย์กลางตั้งอยู่ที่วัดทุ่งเสลี่ยมเป็นสถานที่ประดิษฐานของหลวงพ่อศิลา เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน  ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ของทุกปี ชุมชนจัดงานสักการะหลวงพ่อศิลา ในงานจะมีขบวนแห่ครัวทาน ขบวนพานพุ่ม การแสดงทางศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่นสวยงามตระการตา

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

หลวงพ่อศิลา วัดทุ่งเสลี่ยม
หลวงพ่อศิลา เป็นพระพุทธรูปนาคปรก ปางสมาธิ สกัดจากหินทรายสีเทาที่กระบังหน้ามีแนวขึ้นตรงกลางลักษณะบ่งบอกว่าทำขึ้นในประเทศไทยมีลักษณะพิเศษชัดเจนคือมีผ้าทิพย์รองรับตัวองค์พระปกติจะเป็นเส้นตรงมีลายดอกจันที่ขุดลึกลงไปในเนื้อหินต่างจากส่วนใหญ่เป็นลายขีดธรรมดาทรงกรองศอพาหุรัด สวมศิราภรณ์ สวมมงกุฎเทริดพระพักตร์ทรงสี่เหลี่ยมคล้ายศิลปะขอมโบราณ พระพักตร์ไม่แย้มพระโอษฐ์เหมือนศิลปะบายนประทับนั่งขัดสมาธิราบ บนฐานขนาดนาคสามชั้น นาคที่ปรกอยู่เหนือพระเศียรมีเจ็ดเศียรด้านหลังหางนาคพาดขึ้นมาถึงลำตัว มีลวดลายแบบศิลปะลพบุรีสร้างขึ้นในราวปีพุทธศักราชที่ 18-19
ความสำคัญ ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระพุทธรูปหินจำหลักที่งดงามที่สุดในทวารวดี

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านในวัด
วัดทุ่งเสลี่ยม จัดเก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ที่แสดงวิถีชีวิตพื้นบ้านของชาวทุ่งเสลี่ยม
ด้านในจัดเป็นสวนธรรมชาติ ตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ไทย กล้วยไม้หลากหลายชนิด มีอาคารแหล่งข้อมูลและจัดแสดงสินค้าของที่ระลึก งานหัตถกรรม สินค้าพื้นบ้านของชุมชนชุมชนในบริเวณวัดความสำคัญ เป็นแหล่งเรียนรู้

ตลาดวัฒนธรรม
ตลาดวัฒนธรรม “กาดฮิมต้า” สร้างโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยมีแหล่งจำหน่ายสินค้า เพื่อสร้างรายได้เพิ่มและพัฒนาสินค้า เชื่อมโยงการตลาดจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค โดยตรงสนับสนุนส่งเสริม และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม รวมถึงการนำทุนทางวัฒนธรรมมาเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัด”ตลาดวัฒนธรรม” : ทุนวัฒนธรรมสร้างชาติ ตลาดวัฒนธรรมสร้างสุข เพื่อนำผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมสร้างสรรค์จากทั่วประเทศ ผลงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติ ศิลปินพื้นบ้าน
ความสำคัญ เป็นแหล่งเรียนรู้และเป็นที่พบปะของชาวบ้าน และการจำหน่ายสินค้าพื้นบ้าน
(ปัจจุบันปิดตลาดเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19)

สถานที่ สำคัญทางวัฒนธรรม
ลานวัฒนธรรมหน้าวิหารหลวงพ่อศิลา เป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม ในมิติการสืบทอดการแสดงทางวัฒนธรรม เพราะจะมีการแสดงฟ้อนรำแบบชาวล้านนาเพื่อถวายหลวงพ่อศิลา การฟ้อนรำที่มีผู้รำมากที่สุดถึง 1,250 คน

กลุ่มทางวัฒนธรรม
สภาวัฒนธรรมตำบลทุ่งเสลี่ยม การรวมกลุ่มคนจัดตั้งเป็นสภาวัฒนธรรมตำบล กรรมการสภาฯ ทำหน้าที่
๑. อนุรักษ์ สืบทอด ส่งเสริม ประสานงาน การดำเนินงานกับกระทรวงวัฒนธรรม ผ่านสภาวัฒนธรรม อำเภอ และจังหวัด
๒. เสนอข้อคิดเห็นในการดำเนินการ ทางด้านวัฒนธรรม และทำแผนพัฒนาการ
๓. เป็นศูนย์กลาง แลก เปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรม โดยเชื่อมโยงกับสภาวัฒนธรรมอำเภอและจังหวัด

สถานที่สำคัญเกี่ยวกับงานศิลปะร่วมสมัย
จิตรกรรมร่วมสมัย ณ ศาลาอเนกประสงค์วัดทุ่งเสลี่ยม ภาพจิตรกรรมฝาผนังตามอุโบสถ ศาลาการเปรียญ และวิหาร โดยทั่วไป ส่วนมากเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติตั้งแต่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ชาดก ชุดทศชาติในมหานิบาตชาดก รวมทั้งเป็นเรื่องบริวาร เช่น
เทพชุมชน นรก สวรรค์ นางฟ้า ท้องฟ้า เมฆ นอกจากนี้ เรื่องราวในจิตรกรรมฝาผนัง ยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับสภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมืองที่จิตรกรสะท้อนลงไว้ในภาพด้วย โดยมีความมุ่งหมายรับใช้พระพุทธศาสนาด้วยการแสดงออกทางศิลปะ จิตรกรรมของวัดแห่งนี้เป็นฝีมือของคณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ และคณะนักศึกษาหลักสูตรทัศนศิลป์ มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา (เจ็ดยอด) จ.เชียงใหม่ “จิตรกรรมฝาผนังที่วัดทุ่งเสลี่ยม เป็นศิลปะร่วมสมัยรัชกาล ที่ ๙ ได้ผสมผสานวัฒนธรรมตะวันตก ตะวันออก และศิลปะไทยถ่ายทอดออกมาสร้างความสนใจในรูปแบบการ์ตูนภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์เมอร์ส มีประชาชนพาลูกหลานมาขอเข้าชมกันมากขึ้น ยังไม่มีเสียงสะท้อนในแง่ลบแต่ประการใด”ชมข้อมูลเพิ่มเติม https://www.youtube.com/watch?v=qfvYYyToFT8

ถนนสายวัฒนธรรม
ถนนสายวัฒนธรรม สะพานมิตรภาพแม่น้ำแม่มอก มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกิดพื้นที่หรือเส้นทางวัฒนธรรมที่สะท้อนเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นที่โดดเด่นออกมาให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม มีการพัฒนาเป็นพื้นที่สาธารณะ ให้เด็ก เยาวชนและประชาชนได้มีโอกาสแสดงออกทางศิลปะ และวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์ หรือเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมเพื่อการเรียนรู้และการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย

ศูนย์การเรียนรู้/ศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดทุ่งเสลี่ยม
ศูนย์การเรียนรู้ธรรมนำชีวิต ศนย์ปฏิบัติธรรมวัดทุ่งเสลี่ยม จัดอบรมประชาชนทั่วไปที่ชอบความสงบ หลีกหนีความวุ่นวายทั้งไปในชีวิตประจำวันและความเครียดสะสมในการทำงาน เพื่อไปปฏิบัติธรรมหาความสงบให้จิตใจ การได้ฝึกปฏิบัติ ฝึกจิต และสมาธิ ใช้ชีวิตแบบ slowlife เหมือนเป็นการชาร์จแบตเสริมพลังชีวิต ชำระจิตใจเข้มแข็ง มองโลกในแง่กุศล เพื่อเป็นเกราะป้องกันให้ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง เข้มแข็งขึ้น ที่วัดทุ่งเสลี่ยมตั้งขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชนมาฝึกจิตทำสมาธิ

CPOT “ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย” (Cultural Product Of Thailand : CPOT)
วัดทุ่งเสลี่ยมร่วมกับชุมชนจัดทำ “ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย ผ้ามัดย้อมสะเลียม” เพื่อนำทุนทางวัฒนธรรม มาต่อยอดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ โดยบูรณาการขับเคลื่อนในชุมชนคุณธรรม ซึ่งน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางปฏิบัติ และมีความสอดคล้องกับเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของชุมชนอันจะนำไปสู่การสร้างสรรค์ทุนทางวัฒนธรรมในเชิงเศรษฐกิจให้กับประชาชน ชุมชนและประเทศชาติต่อไปสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนนทบุรีเห็นควรส่งเสริมให้ชุมชนในท้องถิ่นนำทุนทางวัฒนธรรมที่มีค่ามาต่อยอดสร้างสรรค์เป็น”ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย” (Cultural Product Of Thailand: CPOT) ของจังหวัดสุโขทัย เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมที่มีค่า ให้คงอยู่สืบไป

สถานที่สำคัญเกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินสุโขทัยของพระมหากษัตริย์
วัดทุ่งเสลี่ยม วัดวาดภาพพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนเสาศาลาการเปรียญทั้ง 14 ต้น โดยเสา 7 ต้น ด้านขวามือพระประธานจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ ส่วนเสา 7 ต้น ด้านซ้ายมือจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจที่พระองค์เสด็จฯ มายัง จ.สุโขทัยจำนวน 7 ครั้ง พระครูสุเขตสุทธาลังการ เจ้าอาวาสกล่าวว่า เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อาตมาและทางวัดจึงจ้างอาจารย์และนักศึกษาจากกรมศิลปากร มาวาดภาพ ลงเสาของศาลาการเปรียญทั้ง 14 ต้น โดยแบ่งเสาฝั่งซ้ายมือ 7 ต้น เป็นภาพภาพเกี่ยวกับการเสด็จฯ เยือน จ.สุโขทัย ที่พระองค์เสด็จฯทั้ง 7 ครั้ง โดยครั้งที่ 6 เสด็จพระราชดำเนิน มายังอำเภอทุ่งเสลี่ยม มีพระราชดำริสร้างอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่มอกให้ชาวบ้านมีน้ำปลูกข้าวทำนา ส่วนเสาด้านขวามืออีก 7 ต้น วาดภาพเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ที่พระองค์ทรงงานเพื่อคนไทยทั้งประเทศ

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

แม่น้ำแม่มอก
อำเภอทุ่งเสลี่ยมมีแม่น้ำสำคัญ  คือ  ลำน้ำแม่มอกไหลผ่านเขตท้องที่อำเภอทุ่งเสลี่ยม  เป็นระยะทางยาวประมาณ ๖๐  กิโลเมตร นอกจากนั้นมีลำน้ำแม่ถัน  คลองเหมืองนา คลองสำราญ  คลองแม่ทุเลา  ห้วยคะยางและห้วยไคร้ แม่น้ำผ่านหน้าวัดจึงได้จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
ให้คนนั่งพักผ่อนหย่อนใจ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามยามเช้าและยามเย็น

พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ลำพัน
– ป่าแม่มอก อยู่ในพื้นที่ตำบลกลางดงและตำบลทุ่งเสลี่ยม ติดต่ออำเภอเถิน จังหวัดลำปาง มีพื้นที่ประมาณ 86,632 ไร่ แม่น้ำแม่มอกจากป่าแม่มอก เป็นลำน้ำไหลผ่านหน้าวัดจึงได้จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ให้คนนั่งพักผ่อนหย่อนใจ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามยามเช้าและยามเย็น 

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง/ศาสตร์พระราชา
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตเป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่ และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน  ทั้งในการพัฒนา และบริหารให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่ และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็นโดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัยและวิกฤติ เพื่อความมั่นคงและความยั่งยืนของการพัฒนา

กิจกรรมการท่องเที่ยว

การใส่บาตรข้าวเหนียว
วัดทุ่งเสลี่ยม  ประเพณีใส่บาตรข้าวเหนียว เป็นขนบธรรมเนียมที่ปฏิบัติพิธีกรรมและความเชื่อชาวลาวมาช้านาน ชาวลาว ที่นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ (ร้อยละ 60 ของชาวลาวทั้งหมด) ควบคู่ไปกับลัทธินับถือ ผีบรรพบุรุษของชนชาติส่วนน้อยในแถบภูเขาสูง ประเพณีที่เห็นได้ชัดคือการใส่บาตรตอนเช้าผู้หญิงจะใส่ผ้าถุงสวยงาม จะมีพระสงฆ์ประมาณ 5 รูปออกมารับบิณฑบาตในตอนเช้า

การปลูกข้าว
ชุมชนคุณธรรมวัดทุ่งเสลี่ยม หมู่ 3 และ หมู่ 5 อำเภอทุ่งเสลี่ยมมีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยววิถีชุมชนกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ทุกคนชื่นชอบเป็นอย่างหนึ่งนั่นก็คือการขี่จักรยานชมทุ่งนา เพราะว่าที่อำเภอทุ่งเสลี่ยงนั้นมีผืนนาเป็นจำนวนมากและชาวบ้านส่วนใหญ่มีวิถีชีวิตที่เกี่ยวข้องการทำนา ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ประกอบอาชีพเกษตรกร ทำนา ทำไร่ ทำสวน การปลูกข้าวนาดำ เรียกว่า การปักดำ ซึ่งวิธีการปลูกแบ่งออกได้เป็นสองตอน ตอนแรก ได้แก่ การตกกล้าในแปลงขนาดเล็ก และตอนที่สอง ได้แก่ การถอนต้นกล้า เอาไปปักดำในนาผืนใหญ่

งานประดิษฐ์ งานฝีมือ ก๋วย/ฟุ่ย
ชุมชนคุณธรรมวัดทุ่งเสลี่ยม หมู่ 3 และ หมู่ 5 ทุ่งเสลี่ยมร่วมกันจัดประเพณีตานก๋วยสลากซึ่งเป็นประเพณีที่มีมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาลได้มีการปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงรุ่นปัจจุบันก๋วยสลากจะมีอยู่2 ลักษณะ

1.ก๋วยน้อย เป็นก๋วยสลากสำหรับที่จะถวายทานไปให้กับผู้ที่ล่วงลับ ซึ่งไม่เพียงแต่ญาติพี่น้องเท่านั้นอาจจะเป็นเพื่อนสนิทมิตรสหายก็ได้ หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงที่เราเคยรักและมี คุณต่อเราเมื่อครั้งยังมีชีวิต เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย และสุนัข เป็นต้น    

2.ก๋วยใหญ่ เป็นก๋วยที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษซึ่งจะบรรจุข้าวของได้มากขึ้น ถวายเป็นมหากุศลสำหรับคนที่มีกำลังศรัทธาและฐานะดี เป็นปัจจัยนับว่าได้กุศลแรง

ปั่นจักยาน
ชุมชนคุณธรรมวัดทุ่งเสลี่ยม หมู่ 3 และ หมู่ 5 อำเภอทุ่งเสลี่ยม มีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยววิถีชุมชนกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ทุกคนชื่นชอบเป็นอย่างหนึ่งนั่นก็คือการขี่จักรยานชมทุ่งนา เพราะว่าที่อำเภอทุ่งเสลี่ยมนั้นมีผืนนาเป็นจำนวนมาก มีจักรยานให้ยืมและให้เช่าติดต่อที่ วัดทุ่งเสลี่ยมและเทศบาลตำบลทุ่งเสลี่ยม

ร่วมการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม
ชุมชนคุณธรรมวัดทุ่งเสลี่ยม หมู่ 3 และ หมู่ 5 วัฒนธรรมและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง วัฒนธรรมด้านภาษา ภาษาพูด ของชาวอำเภอทุ่งเสลี่ยมส่วนใหญ่เป็นภาษาพื้นเมืองแบบล้านนาไทย ซึ่งเรียกตนเองว่า “ไตยวน (ไต-ยวน)” หรือ “ไทยโยนก (ไทย-โย-นก)” ซึ่งมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง วัฒนธรรมด้านศิลปะการร่ายรำ ศิลปะการร่ายรำของชาวอำเภอทุ่งเสลี่ยม เป็นการร่ายรำเนื่องในงานประเพณีต่าง ๆ เช่น ประเพณีสงกรานต์ ประเพณีการแห่ครัวทาน ประเพณีการบวชพระ เป็นต้น ศิลปะการร่ายรำประกอบ ดนตรีพื้นเมือง ที่นิยมคือ การฟ้อนปราสาทไหว การฟ้อนเจิง การฟ้อนรำโม้ง จิ่งเจ้ การรำเถิดเทิงกลองต๊ะ การรำซิ้งม่อง เป็นต้น

ประกอบอาหารพื้นบ้าน (คาว/หวาน)
ชุมชนคุณธรรมวัดทุ่งเสลี่ยม หมู่ 3 และ หมู่ 5 อาหารพื้นเมืองของอำเภอทุ่งเสลี่ยมวัฒนธรรมเกี่ยวกับอาหาร หรือการกินของชาวอำเภอทุ่งเสลี่ยม นิยมรับประทานข้าวเหนียวเป็นส่วนใหญ่ส่วนอาหารก็เป็นอาหารแบบพื้นเมือง แยกเป็นดังนี้ 
อาหารประเภทแกง  หรือต้มมีน้ำ เช่น แก๋งแค แก๋งอ่อม แก๋งฮังเล แก๋งโฮะ แก๋งส้มแก๋งบ่ค้อนก้อม แก๋งปี๋ป้าว แก๋งเต้งมดแดง แก๋งเห็ดถอบ แก๋งออกลาน เป็นต้น
อาหารประเภทยำ ยำหนามโก๊ง  ยำบ่เขือแจ้ใส่จิ้นย่าง  ยำยอดบ่ม่วง เป็นต้น
อาหารประเภทน้ำพริกผักจิ้ม เช่น น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง น้ำพริกแม่เก๋ น้ำพริกถั่วเน่าน้ำพริกน้ำปู๋
เป็นต้น
อาหารประเภทดอง เช่น ผักกาดดอง  ผักเสี้ยนดอง  ดองแมงมัน  ป๋าจ่อม ป๋าส้ม จิ้นส้ม
เป็นต้น
อาหารประเภทลาบ/หลู้ เช่น ลาบจิ้น (วัว,ควาย)  ลาบหมู ลาบค้างคาว ลาบจิ้นฟาน (เก้ง)ลาบฮอก (กระรอก) เป็นต้น

การชมความงดงามทางธรรมชาติ
ชุมชนคุณธรรมวัดทุ่งเสลี่ยม หมู่ 3 และ หมู่ 5 ทุ่งเสลี่ยมเป็นชุมชนโบราณที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมล้านนาค่อนข้างสูงมีความเป็นธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์  ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่โอบล้อมด้วยแนวสันเขาทำให้อำเภอนี้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม วิถีชีวิตของผู้คนทุ่งเสลี่ยมได้อาศัยร่มเงาแห่งพระพุทธศาสนาเป็นหลักในการดำรงชีวิตจึงทำให้มีวัดวาอารามมากมาย ประชาชนส่วนใหญ่มีอุปนิสัยรักสงบ ดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของเกษตรกรไทย

ศิลปวัฒนธรรม
ชุมชนคุณธรรมวัดทุ่งเสลี่ยม หมู่ 3 และ หมู่ 5 ประชาชนในชุมชนส่วนใหญ่อพยพย้ายถิ่นฐานมาจากอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง มีวัฒนธรรมและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง มีศิลปวัฒนธรรมด้าน ดนตรีพื้นเมือง ศิลปวัฒนธรรมด้านศิลปะการร่ายรำ ศิลปวัฒนธรรมเกี่ยวกับสิ่งก่อสร้าง ศิลปวัฒนธรรมด้านปฏิมากรรมแบบล้านนาแตกต่างจากที่อื่นในจังหวัดสุโขทัย  

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

EGAT Learning Center ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.

ห้องนี้เป็นห้องที่สนุกที่สุด น่าสนใจสุด และได้ความรู้สุดบอกเลย เป็นเกมส์ให้เล่นพร้อมกับให้ความรู้ควบคู่กันไป ทั้งการผลิตกระแสไฟฟ้า และสำรวจพื้นที่โดยหุ่นยนต์ การวางโครงข่ายเสาไฟฟ้าแรงสูง แต่ละกิจกรรม แต่ละเกมส์สนุกและน่าสนใจมากๆ
📌 โซน 5 : นวัตกรรมเพื่อชีวิต
ห้องนี้เป็นห้องที่สนุกที่สุด น่าสนใจสุด และได้ความรู้สุดบอกเลย เป็นเกมส์ให้เล่นพร้อมกับให้ความรู้ควบคู่กันไป ทั้งการผลิตกระแสไฟฟ้า และสำรวจพื้นที่โดยหุ่นยนต์ การวางโครงข่ายเสาไฟฟ้าแรงสูง แต่ละกิจกรรม แต่ละเกมส์สนุกและน่าสนใจมากๆ
📌 โซน 6 : โลกที่ยั่งยืน
ห้องนี้จะเป็นการสํารวจโลกพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ผ่านลูกโลก SPHERE ที่รวบรวมประเทศโดดเด่นในการบริหารจัดการด้านพลังงาน และการส่งไฟฟ้าระหว่างประเทศอาเซียน และยังมีเกมส์ให้เล่นโดยเรารับบทเป็นผู้ควบคุมกําลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อเลือกเชื้อเพลิงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ใครชอบการแข่งขันต้องไม่พลาดเกมส์นี้
📌โซน 7 : แสงนิรันดร์
ห้องนี้เป็นจุดสุดท้าย เป็นจุดที่ประมวลผลการเรียนรู้ที่บันทึกไว้ในสายรัดข้อมือ ในแต่ละกิจกรรมต่างๆ มาตลอด สร้าง “แสงแห่งสุขนิรันดร์” แล้วทำการส่งข้อมูลการประมวลผลให้กับเราทางอีเมลที่ได้ลงทะเบียนไว้
⏰ รอบการเข้าชม
รอบที่ 1 เวลา 09.00 น.
รอบที่ 2 เวลา 10.00 น.
รอบที่ 3 เวลา 11.00 น.
รอบที่ 4️ เวลา 13.30 น.
รอบที่ 5 เวลา 14.30 น

ที่ตั้ง : 53 หมู่ 2 ถ.จรัญสนิทวงศ์ ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

เปิด – ปิด : 09.00 – 16.00 น. (หยุดวันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)+ โทร : 02-436-8952

เข้าชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย