1975 Toyota Sprinter 1600 Trueno GT

1975 Toyota Sprinter 1600 Trueno GT
รุ่นนี้ในประเทศไทย น่าจะเป็นรุ่นที่หายากมากๆ ครับ
ต่างประเทศจะเรียกว่า TE47 Sprinter Trueno GT
.
เป็นรุ่นที่สองของ Levin และ Trueno Sprinter มีความแตกต่างที่ชัดเจน ระหว่างรุ่นทั้งสอง แม้ว่าจะมีโครงสร้างแบบเดียวกัน แต่การออกแบบด้านหน้า ช่วงกระจัง ทั้งหมดนั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับรุ่น Levin (TE51 และ TE55) ที่มีการออกแบบการให้ดูดุดัน ในขณะที่ Trueno Sprinter (TE47, TE61, TE62 และ TE65) มีการออกแบบที่เพรียวบางและโค้งกว่า ตรงกันข้ามกับรุ่นก่อนของ Levin และ Trueno Sprinter รุ่นที่สองที่มีเครื่องยนต์และการตัดแต่งที่หลากหลายกว่ามาก เกรด Trueno LT ใช้เครื่องยนต์ 2T ธรรมดา และเกรด Trueno ST ใช้เครื่องยนต์ 2T-B ของคาร์บูเรเตอร์แบบดาวน์ดราฟต์คู่ เกรด Levin และ Trueno GT ใช้เครื่องยนต์ 2T-G ที่มีหัว DOHC จาก TE27 รุ่นก่อนที่มีกำลัง 86 กิโลวัตต์ (115 แรงม้า) จากคาร์บูเรเตอร์ Mikuni Solex สองชุด และต่อมาคือ 82 กิโลวัตต์ (110 แรงม้า) จากเครื่องยนต์ 2T-GEU กับ Bosch ระบบ K-Jetronic EFI
.

#Sprinter #Toyota #Trueno #GT #TE47 #Levin

ORA Good Cat GT ( เจ้าแมวดี GT)

ได้ลองแล้ว เจ้าแมวดี GT รถไฟฟ้าสุดฉลาด ที่มาพร้อมความสปอร์ต

ก่อนอื่นต้องขอบคุณทาง GWM Thailand ที่เชิญทางเพจไปร่วมทดสอบเจ้า Ora Goodcat GT คันนี้

โดยเส้นทางที่ทดสอบร่วม 250 กิโลเมตร กทม. – ชลบุรี กินเที่ยวตามอัธยาศัยตามสไตล์รถไฟฟ้าไม่ต้องแคร์เรื่องค่าเดินทาง

สรุปรวมๆกับเจ้าแมวดีสายซิ่งคันนี้ (ในส่วนที่แตกต่างจาก Goodcat รุ่นทั่วไป)

ภายนอก ดุดันมากขึ้น สมกับคำว่า GT
• ด้วยสีเทาพิเศษ (Aqua Grey) ที่มีเฉพาะรุ่น GT และขลิบด้วยแดง เพิ่มความสปอร์ต
• ชุดแต่งรอบคัน ช่องดักลมหลอกขนาดใหญ่ โป่งข้าง สปอยเลอร์หลัง และครีบดักลมใต้กันชนหลัง เสริมด้วยลาย Carbon Fiber ให้ดูดุดันมากขึ้น
• ล้อขอบ 18 ลาย Cat craw เพิ่มความสวยงามงามด้วยริมสีแดง
• คาลิปเปอร์เบรกสีแดงเพิ่มความโดดเด่น

ภายใน Sport look
• เบาะและพวงมาลัย สี ดำ-แดง แบบสปรอ์ต และมีปักคำว่า GT ที่หมอนรองศรีษะคู่หน้า
• เหนือระดับเหเบาะนวดคู่หน้า พร้อมระบบระบายอากาศ
• กระโปรงหลังแบบไฟฟ้า มาพร้อม Kick Sensor สะดวกสุดๆ
• ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะมากมาย พูดไม่หมด เอาเป็นว่าเยอะสุดใน segment เดียวกันแน่นอน

ขุมพลัง สมรรถนะในการขับขี่แรงขึ้นพอตัว
• มอเตอร์ 126 Kw ให้แรงม้า 171 PS แรงบิดสูงถึง 250 Nm. (จากเดิม 149 PS)
• แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น ขนาด 63 Kwh (มากกว่ารุ่น Ultra 500 ซะอีก)
• มาพร้อมกับ 5 โหมดในการขับขี่ Normal, Sport, Eco, Eco+ และ Auto

สรุปแบบมัดรวมหลังจากได้ขับยาวๆทั้งบนไฮเวย์ ทางด่วน และในเมืองรถติดๆ
เป็นรถที่ขับง่ายและสนุก ด้วยช่วงล่างและอัตราเร่ง หน้าสปอร์ตมากขึ้นเบรกความน่ารักลงนิดคนขับและคนนั่งหน้ารู้สึกนุ่มสบายแต่ให้ความมั่นใจ ส่วนผู้โดยสารตอนหลังอาจจะมีความกระเทือนบ้างตามสไตล์รถ Hatchback 5 ประตูท้ายตัด ซึ่งเอาจริงๆ ผมว่าทำได้ดีกว่าหลายๆรุ่นเลยนะ ในส่วนของระบบช่วยขับอัจฉริยะให้มาแบบล้นๆ ทั่ง Drive assistance Level 2+ ผมว่าดีอันดับต้นๆ ระบบเตือนรถออกนอกเลน ที่ไม่ใช้แต่เตือนแต่น้องประคองพวงมาลัยให้ด้วย ซึงเจ้า ORA นั่นจะคอยอ่านป้ายจำกัดความเร็วและเตือนหากเราวิ่งเกิดกำหนด ระบบช่วยจอด อันนี้ว่าสำหรับมือใหม่น่าจะเลิฟเลย เหมาะกับคนที่มี Live style ใช้รถในเมือง และท่องเที่ยวบ้างบางครั้ง

ข้อติ
• เครื่องเสียงภายในรถ ถึงแม้ว่าจะสามารถเล่น Car play และมีเดียได้หลากหลาย แต่เสียงที่ออกมานั้นบอกได้เลยว่าไม่ค่อยมีมิติเท่าไหร่ ไม่สมความเป็นตัว Top ของ Series
• และถึงแม่จะมีกล้องรอบคัน แต่ไม่ได้มีการบันทึกซึ่งผมมองว่าจำเป็นในยามฉุกเฉิน

สุดท้ายเรามาลุ้นราคาเปิดตัวช่วงปลายๆเดือนกันครับ ว่าจะเป้นไปตามคาดหวังไหม ซึ่งทาง GWM Thailand แจ้งมาว่ามีรถอยู่ในมือแล้วตอนนี้ 150 คัน ใครอยากได้รถไฟฟ้าไว้ใช้งานช่วงนี้รีบจับจองเลยครับ ไม่ต้องรอนานเหมือนรุ่นอื่นๆแน่นอน

GWM #GwmThailand
ORA #OraGoodcatGT

EvThaiSociety