พักผ่อน สัมผัสวิถีชุมชน @ ไดโนโรดโฮมสเตย์

ที่ตั้ง บ้านโนนบุรี ตำบลโนนบุรี

๑.ประเภทของที่พัก (โฮมสเตย์) เฮือนเบญจมาศ
๒.จำนวนห้อง 4 ห้อง
๓.ประเภทห้องพัก/ราคา
ห้องพัก Standard ราคา(250 บาท)

๔.สิ่งอำนวยความสะดวก/กิจกรรมพิเศษ
จักรยานนำเที่ยวรอบชุมชน
๕.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
นายสหัส อรรถเนติกุล โทร 08 1953 6804
๖.ช่องทางออนไลน์
ไดโนโรดโฮมสเตย์ https://www.facebook.com/SilakaewHomestay/
สหัสขันธ์ไดโนโรดโฮมสเตย์ https://www.facebook.com/homestay.dino/

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

สะพานเทพสุดา อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

ที่ตั้งเลขที่ 200 หมู่ที่ 11 ตำบล โนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

๑.สะพานเทพสุดา เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 2 ช่องจราจร ข้ามเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ จากบริเวณแหลมโนนวิเศษ ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ ถึงบริเวณเกาะมหาราช ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรีเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2549 ใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 498,850,000 บาท ความยาว 2,040 เมตร ถนนต่อเชื่อมโครงการผิวจราจรกว้าง 7 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 2.50 เมตร ภายใต้การกำกับดูแลของกรมทางหลวงชนบท สร้างเสร็จในเดือนธันวาคม 2553 ถือเป็นสะพานข้ามน้ำจืดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2553 และเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดสะพานเทพสุดาอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ออกแบบประติมากรรมรูปหล่อไดโนเสาร์ ติดตั้งบริเวณราวสะพานทั้ง 2 ข้าง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดกาฬสินธุ์ บนสะพานเทพสุดา สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามบริเวณพื้นที่อ่างเก็บน้ำลำปาวได้อย่างชัดเจน สนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดกาฬสินธุ์ และการท่องเที่ยวในภูมิภาค
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่ เปิดบริการทุกวัน
๓.ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว (เดือนเมษายนในห้วงเทศกาล สงกรานต์)
๔.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่างๆ (ไม่มี)
๕.กิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจ
– ล่องแพ ชมทิวทัศน์แม่น้ำปาว ชมพระอาทิตย์ยามสนธยา
– ตกปลา /ชมวิถีชีวิตชาวประมง
๖.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม 0 6162 8755,08 1953 6804
๗.ช่องทางออนไลน์ เพจ:การท่องเที่ยวอำเภอสหัสขันธ์ ,
๘.สิ่งอำนวยความสะดวก ห้องน้ำ/ทางลาด/ที่จอดรถ /จุดบริการนักท่องเที่ยว/ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

กราบขอพรพระพรหมภูมิปาโล วัดภูสิงห์

บนยอดภูสิงห์เป็นที่ประดิษฐาน พระพรหมภูมิปาโล พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่สีขาว หน้าตักกว้าง 10.5 เมตร สูง 17.80 เมตร สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2511 เป็นพระพุทธรูปใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งของภาคอีสาน มีความงดงามและสมส่วนทางพุทธศิลป์พุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และขึ้นไปพักผ่อนหย่อนใจชมชมทัศนียภาพ “เมืองสหัสขันธ์” เพราะจากยอดภูสิงห์สามารถมองเห็นวิวโดยรอบอย่างชัดเจนทั้งภูกุ่มข้าว ภูค่าว ที่อยู่ไม่ไกลกัน รวมถึงเขื่อนลำปาว และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงาม
ผู้ต้องการขึ้นสู่ยอดภูสิงห์สามารถขับรถยนต์ขึ้น หรือจะเดินเท้าทางบันได 654 ขั้นก็ได้ กิจกรรมประจำปี ณ วัดพุทธาวาสภูสิงห์ มีดังนี้
1) กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีบนลานยอดเขาภูสิงห์
2) กิจกรรมวันมาฆบูชาจัดปฏิบัติธรรม ประมาณ 3-4 วัน
3) กิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน
4) ประเพณีสงกรานต์ การแห่ผ้าอังสะถวายพระพรหมภูมิปาโลขึ้นบันได 654 ขั้นขึ้นบนยอดเขาภูสิงห์
5) กิจกรรมวันวิสาขบูชา จัดปฏิบัติธรรมประจำปี
6) กิจกรรมทำบุญตักบาตรวันแม่
7) กิจกรรมตักบาตรเทโวโรหณะงานประจำปี ระดับจังหวัดที่ยิ่งใหญ่ พระสงฆ์กว่า 400 รูปเดินลงมาจากภูเขาภูสิงห์มาทางบันไดเพื่อรับบิณฑบาตบริเวณเชิงเขา

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

พิพิธภัณฑ์สิรินธร อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

ที่ตั้งเลขที่ 200 หมู่ที่ 11 ตำบล โนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

๑.เป็นแหล่งที่พบโครงกระดูกไดโนเสาร์กินพืชที่มีความสมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีว่า “พิพิธภัณฑ์สิรินธร” เดิมเป็นศูนย์วิจัยไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว ในปี พ.ศ.2537 พบโครงกระดูกของไดโนเสาร์กินพืชภูเวียงโกซอรัสสิรินธรเน ในบริเวณที่เป็นหลุมขุดค้นปัจจุบัน โดยพระครูวิจิตรสหัสคุณ เจ้าอาวาสวัดสักกะวัน ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2537 เป็นต้นมา คณะสำรวจไดโนเสาร์จากกรมทรัพยากรธรณีจึงได้เริ่มทำการขุดค้นอย่างเป็นระบบ และพบว่า ภูกุ้มข้าว เป็นแหล่งที่พบโครงกระดูกไดโนเสาร์กินพืชที่มีความสมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย มีการพบโครงกระดูกไดโนเสาร์ขนาดต่างๆ เป็นกระดูกชนิดกินพืชมากกว่า 7 ตัว จำนวนกระดูกมากกว่า 700 ชิ้น ที่สำคัญคือ พบชิ้นส่วนของหัวกระโหลก ฟันและกราม และโครงกระดูกที่เรียงรายต่อกัน เกือบจะสมบูรณ์ทั้งตัวอยู่ด้วย โครงกระดูกทั้งหมดอยู่ในชั้นหินที่วางตัวอยู่บนไหล่เขาของภูกุ้มข้าวซึ่งมีรูปร่างคล้ายลอมฟาง มีความสูงประมาณ 240 เมตร
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่

วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.30-16.30 น. * ปิดทุกวันจันทร์ *
๓.ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว เดือนแห่งวิทยาศาสตร์ เดือนสิงหาคม และช่วงปิดภาคการศึกษา
๔.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่างๆ
ผู้ใหญ่ 40 บาท อายุ ๖๐ ปีขึ้นไปเข้าชมฟรี
เด็ก 10 บาท อายุไม่เกิน 12 ปี
ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท
เด็ก 50 บาท อายุไม่เกิน 12 ปี

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ร้านอาหารลี่กินแซ่บเฮียช้าง/ร้านตำกะเทยกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

ที่ตั้ง 170/2 หมู่ที่ 4 ถนนกาฬสินธุ์ – ร้อยเอ็ด บ้านเตาไห ตำบลหลุบ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
๑. เป็นร้านอาหารที่เก่าแก่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่เปิดมาตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งท่านได้เดินทางมารับประทานอาหารร้านนี้ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีชื่อร้าน ซึ่งเป็นร้านอาหารอีสานที่ขึ้นชื่อในเมืองกาฬสินธุ์ ท่านพอใจในรสชาติของอาหารจึงพูดขึ้นว่า “แซบอีหลีจึงได้กลายเป็นชื่อร้านตามคำพูดของท่านตั้งแต่นั้นมาว่า“ร้านแซบอีหลี” สืบเนื่องมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันที่ 21 พ.ย.2554 จึงได้เกิดตำนานแซบอีหลี สู่ ลี่กินแซบ ขึ้นในนาม “เฮียช้าง ลี่กินแซบ” ร่วมระยะเวลา ประมาณ 100 ปี
2.เมนูเด่น/เมนูแนะนำ
2.1 ไส้กรอกอิสาน 2.2. ส้มตำไทย -ลาว.
2.3. อ่อมเนื้อลาย ๒.๔ ก้อยผง /ก้อยขม
๒.๕ ต้มแซ่บ ๒.๖ หมูแดดเดียว
3.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของร้าน
เปิดทุกวัน เวลา 0๘.๓๐ น.-๑๕.๓๐ น.
๔.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
09 3054 5920 , 08 8056 4161
๕.ช่องทางออนไลน์
เพจ:ลี่กินแซ่บเฮียช้าง

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

พิพิธภัณฑ์ของดีจังหวัดกาฬสินธุ์ (หอศิลป์)

ที่ตั้ง ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ (หลังเก่า) ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์
๑.พิพิธภัณฑ์ของดีเมืองกาฬสินธุ์ (หอศิลป์) (Kalasin art gallery) เป็นแหล่งข้อมูลที่บูรณาการความรู้สมัยเก่ากับสมัยใหม่เป็นแหล่งเรียนรู้และรวบรวมข้อมูลของดีจังหวัดกาฬสินธุ์ บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ภูมิศาสตร์ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนจังหวัดกาฬสินธุ์ ทั้ง ๑๘ อำเภอ เป็นศูนย์กลางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเชื่อมโยงข้อมูลศูนย์ศิลปวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวภายในจังหวัดกาฬสินธุ์ ถ่ายทอดและสร้างสรรค์งานด้านศิลปะ ศาสนา และวัฒนธรรม
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่ เปิดให้บริการวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น.๑๖.๐๐ น. หยุดทำการทุกวันจันทร์ของสัปดาห์
๓.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ –
๔.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม 0 4384 0163
๕.ช่องทางออนไลน์ เพจหอศิลป์เมืองกาฬสินธุ์
๖.สิ่งอำนวยความสะดวก/ห้องน้ำ/ทางลาด/ที่จอดรถ/ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว/ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

วัดกลาง พระอารามหลวง จังหวัดกาฬสินธุ์

ที่ตั้ง 47 ถนนกาฬสินธุ์ ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์

๑.เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง และเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธ สัมฤทธิ์นิรโรคันตราย หรือหลวงพ่อองค์ดำ ที่เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวกาฬสินธุ์ โดยมีความเป็นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ กวาดต้อนประชาชนชาวผู้ไทมาจากลาว ประเทศลาวมีบ่อคำแดงมากบริเวณสะหวันนะเขต มีคณะที่อพยพมาจากประเทศลาวไปอยู่ที่เมืองภูแล่นช้าง ซึ่งปัจจุบันคือตำบลนาขาม อำเภอนาดู จังหวัดกาพสินธุ์ และญาคูกิวซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ ได้นำทองแดงและทองคำที่ได้มาจากประเทศลาวเพื่อประกอบพิธีหล่อองค์พระพุทธรูปเมื่อ พ.ศ. 2353 โดยมีช่างจากล้านนาโบราณที่เชี่ยวชาญมาช่วยในการหล่อ แต่ว่าทองแดงไม่พอจึงกลับไปเอาทองแดงอีกครั้ง เมื่อหล่อองค์พระพุทธรูปเสร็จปรากฏว่าทองแดง ที่ใช้เป็นส่วนประกอบของพระพุทธรูปนั้นทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศทำให้เกิดปฏิกิริยาออกชิเดชั่น เกิดเป็นสนิมสีดำ เกาะติดรอบพระพุทธรูป เมื่อชัดสนิมออกแล้วก็จะเห็นสีของทองแดงแต่เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ก็กลับมาเป็นสีดำเช่นเดิม ชาวบ้านจึงเรียกพระพุทธรูปนี้ว่า หลวงพ่อองค์ดำต่อมาได้มีการนำไปประดิบฐานที่วัดนาขาม และในสมัยพระยาชัยสุนทร(เก) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ องค์ที่ 11 ได้เดินทางไปตรวจราชการที่บ้านนาขาม แล้วได้พบเห็นหลวงพ่อองค์ดำที่วัดนาขาม เป็นพระที่มีลักษณะงดงาม จึงมีความต้องการที่จะนำไปประดิษฐานไว้ที่โฮงผู้ว่าฯ (จวนผู้ว่าฯ)และก็ได้เกิดเหตุอาเพศต่างๆมากมาย จึงได้นำไปประดิษฐานไว้ที่วัดกลาง ปาฏิหาริย์ต่างๆ
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๕.๓๐-๒๑.๐๐ น.
๓.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ –
๔.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม พระครูปัญญามัชฌิมานุกูล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกลาง เบอร์ 09 8654 5789
๕.ช่องทางออนไลน์ มีเพจ:วัดกลางพระอารามหลวง, พระครูปัญญามัชฌิมานุกูล
๖.สิ่งอำนวยความสะดวก/ห้องน้ำ/ทางลาด/ที่จอดรถ/ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว/ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

วัดสว่างหัวนาคำ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์

ที่ตั้ง ๒ ตำบลหัวนาคำ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์
๑.บ้านหัวนาคำ เป็นชุมชนที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา มีความรักใคร่ปรองดอง สมัครสมานสามัคคี เป็นชุมชนที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และเป็นชุมชนที่ใหญ่ มีครัวเรือนกว่าหนึ่งพันครัวเรือน โดยมีวัดสว่างหัวนาคำ เป็นศูนย์รวมจิตใจ และทำกิจกรรมตามฮีตสิบสองคองสิบสี่ เป็นวัดเก่าแก่ประจำหมู่บ้าน ศาสนสถานในวัดมีพระอุโบสถสิมอีสานไม้พันชาติที่มีความสวยงามมาก มีพระพุทธรูปประจำวัดคือ หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 22-23 เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยล้านช้าง เป็นที่เลื่อมใส เคารพบูชาของชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนทั่วไป เรียกว่าหลวงพ่อศิลา ซึ่งวัดได้จัดเตรียมพานขันหมากเบ็งให้ผู้มาเที่ยวชมได้นำไปสักการะ ศาลาทานบารมีหน้าศาลาการเปรียญเป็นศาลาลักษณะทรงไทย เสาไม้ทั้งหลังทำบุญตักบาตร ๑๐๘ บาตร ชมสวนดอกไม้ พันธุ์ดอกไม้ประดับ สวยงามบริเวณวัด และสาธิตการจัดทำร่มผ้าขาวม้า
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๖.๓๐ น.๑๘.๐๐ น.
๓.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ –
๔.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม พระครูศรีปริยัติโชติธรรม เจ้าอาวาสวัดสว่างหัวนาคำ เจ้าคณะอำเภอยางตลาด ๐๘ ๕๐๑๑ ๑๔๑๙
๕.ช่องทางออนไลน์
เพจ:วัดสว่างหัวนาคำ จ.กาฬสินธุ์
วัดสว่างหัวนาคำ 
พระครูศรีฯวัดสว่างหัวนาคำ
ชื่อผู้ประกอบการร่มผ้าขาวม้า นางกาย สีสารคาม
เบอร์โทรศัพท์ ๐๘ ๑๖๖๑ ๙๗๕๙
เฟซบุ๊ก ภูฟ้า เครื่องนอน
๖.สิ่งอำนวยความสะดวก/ห้องน้ำ/ ทางลาด/ที่จอดรถ/ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว/ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ร้านกลุ่มผ้าทอมือบ้านหนองขาว จ.กาญจนบุรี

ที่ตั้ง ชุมชนชาวหนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
๑.ชื่อยี่ห้อ/แบรนด์ ผ้าขาวม้าร้อยสีบ้านหนองขาว
๒.ชื่อผู้ประกอบการ กลุ่มผ้าทอมือบ้านหนองขาว
๓.ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น
๓.๑ ชื่อผลิตภัณฑ์ ผ้าขาวม้าร้อยสีบ้านหนองขาว
รายละเอียดความโดดเด่น สั้นๆ
ผ้าขาวม้าร้อยสี ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของชุมชนชาวหนองขาว เกิดจากการร่วมมือร่วมใจถักทอขึ้นด้วยวิธีการทอกี่กระตุก ซึ่งเป็นวิธีการทอผ้าแบบโบราณ ใช้มือในการกระตุกคันกระตุก ที่มีการถักทออย่างประณีต นิยมใช้ด้ายสีต่าง ๆ กว่า 100 สี ในการถักทอ ทำให้เกิดความวิจิตรงดงามบนลายผ้าที่โดดเด่น อีกทั้งผ้าขาวม้าในชุมชนยังมีสีสดใส ลวดลายแปลกตา เนื้อผ้าเป็นมันวาวคล้ายผ้าไหม  ดูแลรักษาง่าย ทนทาน สีไม่ตก สามารถใช้งานได้ยาวนาน
๔.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00 -18.00 น.
๕.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
0 3458 6061
08 9612 2553 (คุณอารีย์รัตน์)
๖.ช่องทางออนไลน์
– Facebook : ผ้าขาวม้าร้อยสี อารีย์รัตน์ บ้านหนองขาว

ร้านศรีฟ้าของฝาก จังหวัดกาญจนบุรี

ที่ตั้ง หมู่ 4 ตำบลวังศาลา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
๑.ความโดดเด่น/ความสำคัญ
ศรีฟ้าเบเกอรี่ของฝาก ร้านของฝากชื่อดัง ประจำจังหวัดกาญจนบุรี เปิดมาเป็นเวลานานกว่าสิบปี มีสาขามากมาย หลายสาขา ทั้งโรงงานผลิตแป้งผลิตขนมปังก็มี และมีบริการส่งสินค้าด้วย Kerry ด้วยนะครับ เจ้าของศรีฟ้าเป็นคนจังหวัดกาญจนบุรี สำหรับศรีฟ้าเบเกอรี่ สาขาท่าม่วงนั้นมีของฝากมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อทั้ง ขนมเบเกอรี่ เค้ก หรือขนมทองม้วนที่ศรีฟ้าก็มีขายนะครับ ใส่แพ็คเกจดูหรูหราสวยงาม สำหรับร้านกาแฟ ทางศรีฟ้าก็มีนะครับ จะอยู่ข้าง ๆ ร้านศรีฟ้าเบเกอรี่
๒.ประเภทของผลิตภัณฑ์ (อาทิ ของกิน ของใช้ เครื่องประดับ หรือตกแต่ง)
ของกิน ขนมเบเกอรี่ เค้กฝอยทอง ขนมทองม้วน
3.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของร้าน
เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00 – 18.00 น.
๔.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
06 3905 3076

๕.ช่องทางออนไลน์
– Facebook : ศรีฟ้าของฝาก
– https://srifabakery.co.th

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม