หาดนางกำ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ที่ตั้ง หมู่ที่ ๑๐ ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๑. ชุมชนบ้านนางกำถือเป็นชุมชนที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีความอุดมสมบูรณ์เมื่อเปรียบเทียบกับเกาะสมุย ชุมชนบ้านนางกำมีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และกิจกรรรมพักผ่อนหย่อนใจ ในบริเวณหาดนางกำมีทรัพยากรณ์ที่อุดมสมบูรณ์ มีทัศนียภาพที่สวยงาม สามารถลงเล่นน้ำและเดินทางชมความสวยงามของธรรมชาติ
๒. วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด – ปิด ของสถานที่
เวลา ๐๘.๐๐ น. – ๑๙.๐๐ น.
๓. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว (ช่วงเดือน) เปิดตลอดทั้งปี
๔. ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ –
๕. กิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจ..มีเรือนำเที่ยว และแวะเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ตามริมชายฝั่งหาดนางกำ เช่น เกาะผี เวทีพุ่มพวง บ่อน้ำจืดกลางทะเล แนวหญ้าทะเล คลองถ้ำ
๖. สิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องน้ำ/ที่จอดรถ/จุดบริการนักท่องเที่ยว/ร้านอาหาร

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

วัดเขาพระนิ่ม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ที่ตั้ง หมู่ที่ ๑ ตำบลท่าทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๑. กำหนดอายุสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน เมื่อวันที่ ๓ มกราคม ๒๔๘๐เขาพระนิ่มเป็นภูเขาหินปูนขนาดเล็กอยู่ใกล้กับปากน้ำท่าทอง ทางขึ้นถ้ำมีบันไดนาคที่ทางวัดจัดสร้างไว้ สุดปลายบันไดมีถ้ำ ปากถ้ำกว้างประมาณ ๖ เมตร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ภายในถ้ำลักษณะเป็นคูหามี
๒ คูหาอยู่ชิดกัน ชื่อเขาพระนิ่ม มาจากความเชื่อของชาวบ้านเล่ากันว่า พระพุทธรูปภายในถ้ำแต่ก่อนเวลาเอามือไปแตะหรือกด จะรู้สึกนิ่มมือ ชาวบ้านจึงเรียกว่า “พระนิ่ม” ซึ่งอาจเป็นเพราะพระพุทธรูปภายในถ้ำมีความชื้นมาก เนื้อปูนจึงอ่อนยุ่ย หลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญ ได้แก่ พระพุทธรูปปูนปั้นจำนวนทั้งสิ้น
๒๒ องค์ พระพุทธรูปไสยาสน์ ๒ องค์ พระพุทธรูปปางป่าเลไลย์
๑ องค์ นอกนั้นเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
๒. วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด – ปิด ของสถานที่
เปิดทุกวัน
๓. ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ –
๔. สิ่งอำนวยความสะดวก (ห้องน้ำ/ที่จอดรถ)

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ที่ตั้ง ตำบลตลาด อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๑. วัดพระบรมธาตุไชยาเป็นวัดโบราณไม่ปรากฎหลักฐานทางเอกสารแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด เดิมเคยปรักหักพังรกร้างมาระยะหนึ่ง จนกระทั่งได้มีการบูรณะในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๓๙-๒๔๕๓ มีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญคือ “พระบรมธาตุไชยา” พระบรมธาตุไชยาเป็นเจดีย์ทรงปราสาทเรือนธาตุมีฐานเป็นรูปกากบาท มีมุขทั้ง ๔ ด้าน สูงจากฐานถึงยอดประมาณ ๒๔ เมตร ตั้งอยู่บนฐานบัวลูกแก้วรูปสี่เหลี่ยม ตกแต่งด้วยเสาติดผนัง ขนาดทางด้านทิศตะวันนออกถึงทิศตะวันตก ยาว ๑๓ เมตร ขนาดทางด้านทิศเหนือถึงทิศใต้ ยาว ๑๘ เมตร ส่วนฐานอยู่ต่ำกว่าผิวดิน ปัจจุบันทางวัดได้ขุดบริเวณฐานโดยรอบกว้าง และลึกประมาณ ๑ เมตร เพื่อให้เห็นฐานเดิม ส่วนบนของบัวลูกแก้วสี่เหลี่ยม มีลักษณะเป็นฐานทักษิณ ที่มุมทั้ง ๔ ประดับด้วยสถูปจำลอง ตรงกลางฐานเป็นรูปบัวลูกแก้วอีกชั้นหนึ่งรองรับเรือนธาตุทรงจตุรมุข มุขด้านหน้าทางด้านทิศตะวันออก มีบันไดทางขึ้นไปนมัสการพระพุทธรูปภายในองค์เจดีย์ได้
๒. วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด – ปิด ของสถานที่
เปิดทุกวัน เวลา ๐๘.๐๐ น. – ๑๖.๓๐ น.
๓. ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ –
๔. เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
๐๘ ๑๘๙๕ ๐๑๕๙
๕. สิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องน้ำ/ทางลาด/ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมฯ วัดบางใบไม้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ชุมชนคุณธรรมฯ วัดบางใบไม้ “ในบาง” เป็นชุมชนเก่าแก่กว่า ๒๐๐ ปี ประชาชนส่วนใหญ่ดำรงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมพึ่งพิงแม่น้ำลำคลอง ทำสวน มีพระพุทธรูปหลวงพ่อข้าวสุขเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ในชุมชนมีคลองเล็กคลองน้อย นับร้อยสายเชื่อมโยงกันไหลไปออกแม่น้ำตาปี สองฝั่งคลองมีธรรมชาติร่มรื่น มีต้นจากขึ้นอยู่เรียงรายและลู่ใบเข้าหากันเป็นอุโมงค์ธรรมชาติที่งดงาม วันอาทิตย์จะมีตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้ เป็นตลาดชุมชนเพื่อรองรับการท่องเที่ยว 

หากมาเที่ยวชุมชนคุณธรรมฯ วัดบางใบไม้ สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือการล่องเรือสัมผัสวิถีชีวิตของชาวในบางที่ผูกพันอยู่กับสายน้ำ ชมความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติตลอดแนวสองฝั่งคลอง ลอดอุโมงค์จากที่งดงาม ฟังเรื่องเล่าจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ศึกษาเคล็ดลับภูมิปัญญาท้องถิ่น เลือกซื้ออาหาร ของฝาก ผลิตภัณฑ์ในชุมชน ดื่มด่ำบรรยากาศแห่งมิตรภาพของเจ้าบ้านที่ดีและเสน่ห์ของชุมชน

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดบางใบไม้    วัดบางใบไม้ สร้างขึ้นเมื่อวันที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๓๒๕ ในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นศูนย์กลางทางสังคมของประชาชนในชุมชน วัดบางใบไม้เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าชุมชนแห่งนี้เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มีหลวงพ่อขำ เป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น

ตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้ เป็นตลาดชุมชนมีพลังบวรเป็นแกนหลักในการจัดการ และการมีส่วนร่วมของกลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ตำบลบางใบไม้และคนในชุมชน เปิดทุกวันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. เพื่อให้ประชาชนในชุมชนและใกล้เคียงนำผลิตภัณฑ์ชุมชน อาหารพื้นบ้าน ขนมไทย อาหารทะเล และผักผลไม้ ที่เน้นใช้วัสดุธรรมชาติเป็นภาชนะ อร่อย ราคาถูกมาจำหน่าย สร้างรายได้และความเข้มแข็งให้กับชุมชน เป็นที่พักผ่อนและแหล่งท่องเที่ยวชุมชนแห่งใหม่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี

บ้านโบราณ ๒๐๐ ปี เชื่อว่าสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๒ เป็นเรือนทรงไทยหลังใหญ่สร้างตามแบบเรือนไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นจุดกำเนิดของชุมชนบางใบไม้ มีลักษณะเป็นเรือนปั้นหยาแฝด สร้างโดยใช้วิธีการเข้าสลักไม้ ยึดโครงสร้างของบ้านแทนการตอกตะปู 

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

คลองร้อยสาย คลองร้อยสาย เป็นชื่อเรียกของลำน้ำเล็ก ๆ ที่แตกแขนงมาจากแม่น้ำตาปี ซึ่งมีคลองเล็กคลองน้อยนับร้อยคลอง ประกอบด้วยพื้นที่ ๖ ตำบลของอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ชุมชนเหล่านี้เป็นชุมชนชนบทที่แฝงอยู่ในพื้นที่อำเภอเมือง

อุโมงค์จาก เป็นอุโมงค์ธรรมชาติที่ต้นจากลู่ใบเข้าหากันเป็นซุ้มยาวหลายร้อยเมตร มีความสวยงาม ร่มรื่น ชวนให้น่าบันทึกภาพเก็บไว้เป็นความประทับใจสำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ 

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สวนลุงสงค์ เป็นศูนย์การเรียนรู้การทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนโบราณที่ใช้น้ำมันมะพร้าวในการดูแลสุขภาพตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า และใช้ในการบริโภคเพื่อดูแลสุขภาพ โดยนำน้ำมันมะพร้าวที่สกัดได้มาพัฒนาต่อยอดด้วยนวัตกรรมเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องสำอางค์ ภายใต้   แบรนด์ “Prow Thai by สวนลุงสงค์” เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้และนำกลับไปเป็นของฝากจากชุมชน

กิจกรรมการท่องเที่ยว

ล่องเรือคลองร้อยสาย คลองร้อยสาย ล่องเรือคลองร้อยสายมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและป่าชายเลนสองฝั่งคลองจะเต็มไปด้วยกอจาก ต้นลำพู ต้นลำแพนและโกงกาง มีนกตามธรรมชาติหลากหลายชนิดในสองฝั่งคลองความอุดมสมบูรณ์ของต้นจากทำให้ทางและปลายใบโน้มเข้าหากันทำให้เกิดลักษณะเป็นอุโมงค์จากและสะท้อนบนพื้นน้ำเป็นความงดงามตามธรรมชาติ การล่องเรือมี ๒ แบบ คือล่องแบบระยะสั้นโดยใช้เรือแจว ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ ๒๐-๔๐ นาที ล่องเรือระยะไกลโดยใช้เรือหางยาวใช้เวลาประมาณ ๓๐-๖๐ นาที 

ล่องเรือชมหิ่งห้อย คลองร้อยสาย ล่องเรือชมหิ่งห้อยจะเริ่มที่ประมาณเวลา ๑ ทุ่ม ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและป่าชายเลนทำให้ยังมีหิ่งห้อยตามต้นไม้ชนิดต่าง ๆ เช่น ต้นลำพู ลำแพน ต้นโกงกางและต้นสำลีงา ซึ่งมีกลิ่นอ่อน ๆ ของใบและต้นดอกมีสีขาวมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่ปัจจุบันหาดูได้ยากเนื่องจากเป็นต้นไม้ขนาดเล็ก กลาง ขึ้นสองฝั่งคลองทำให้ กีดขวางการสัญจรทางเรือชาวบ้านจึงโค่นทิ้งเป็นส่วนใหญ่

การสาธิตการสานทางมะพร้าวและ หมาน้ำ ตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้ชุมชนวัดบางใบไม้เป็นชุมชนดั้งเดิมที่ประกอบอาชีพการทำสวนมะพร้าว ในสมัยก่อนการ จัดงานก็จะนิยมใช้ทางมะพร้าวมาขัดสานเป็นลวดลายต่าง ๆ เพื่อประดับสถานที่ให้มีความสวยงาม แต่เนื่องจากความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้มีการเปลี่ยนแปลงไปใช้สิ่งประดิษฐ์อื่น ๆ ในภายหลัง เช่นการใช้ลูกโป่ง ดอกไม้พลาสติก ซึ่งส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อชุมชนได้เห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมจึงได้รื้อฟื้นวิถีชีวิตดั้งเดิมขึ้นมาใช้และถ่ายทอดแก่ผู้สนใจหมาน้ำเป็นภาชนะที่ทำจากใบจากอ่อน (ยอดจาก) ใช้สำหรับตักน้ำ วิธีการทำจะนำใบจากทับซ้อนกันเป็นแถวแล้วงอปลายทั้งสองข้างเข้าหากัน มัดด้วย เชือกก้านจาก หรือต้นคล้าที่มีความเหนียว ปัจจุบันมีการนำหมาน้ำมาเป็นภาชนะใส่อาหาร ประดับตกแต่งสถานที่ 

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมวัดเขาพัง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ชุมชนคุณธรรมวัดเขาพัง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำคลองแสง เป็นชุมชนที่มีภูเขาอยู่ล้อมรอบ มีวัดเขาพัง ก่อตั้งขึ้นโดยพ่อท่านบุญแก้ว อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาพัง ซึ่งถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางและเป็นที่เคารพของชาวบ้านภายในชุมชน

ชุมชนคุณธรรมวัดเขาพัง ตั้งอยู่ริมน้ำคลองแสง มีธรรมชาติที่สร้างสรรค์สิ่งแปลกตาเป็นเอกลักษณ์ คือภูเขารูปหัวใจ มีสะพานแขวนข้ามแม่น้ำคลองแสงที่ด้านหลังจะมองเห็นภูเขารูปหัวใจได้อย่างชัดเจน ด้านการท่องเที่ยวชุมชนมีตลาดวิถีชุมชนชื่อว่า “หลาดคลองแสง” ซึ่งการท่องเที่ยวที่สำคัญคือการท่องเที่ยวฤดูทุเรียนหล่น มีทุเรียนคลองแสง เป็นพันธุ์พื้นบ้าน ซึ่งมีรสชาติและเนื้อสัมผัสเฉพาะตัว ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วไป

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดเขาพัง

เป็นวัดราษฎร์ มหานิกาย มีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีที่มีอายุก่อนประวัติศาสตร์ที่เชื่อได้ว่าเป็นเส้นทางสายไหมข้ามระหว่างทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ในสมัยเริ่มแรก หลักฐานทางโบราณคดี สำคัญที่อยู่ภายในวัดเขาพังได้แก่ พระพุทธรูปและพระแกะสลักด้วยไม้ประดิษฐานภายในโบสถ์ พัทธสีมาคู่ และลูกปัด เป็นต้น มีสิ่งสักการะและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนชุมชน คือหลวงพ่อทวดรอดที่ผู้มาสักการะกราบไหว้ เชื่อว่าเมื่อมากราบไหว้แล้วช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

ภูเขารูปหัวใจ ประติมากรรมทางธรรมชาติที่เกิดจากการกัดกร่อนและพังทลายของภูเขาหินปูนที่มีลักษณะเป็นรูปหัวใจและมีต้นไม้เขียวขจีบริเวณบนภูเขา หน้าผาเป็นสีของหินปูนตามธรรมชาติ ทำให้รูปหัวใจมีความโดดเด่นสามารถมองเห็นได้ชัดเจนทั้งมุมมองจากภายในบริเวณวัดเขาพังและสะพานแขวน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเช็คอินที่คนทุกเพศทุกวัยนิยมมาถ่ายภาพทั้งในช่วงเทศกาลและวันธรรมดา

สะพานแขวนลวดสลิง ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามคลองพะแสงเพื่อใช้ขนส่งผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้านในชุมชน มีการสร้างขึ้นเมื่อปี ๒๕๔๖ มีความยาว ๑๒๐ เมตร ในทิศทางเหนือ-ใต้ ใช้ งบประมาณสร้าง ๒,๔๔๔,๐๐๐ บาท จากองค์การบริหารส่วนตำบลเขาพัง และทำให้สามารถดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกจากบนสะพาน เป็นจุดเช็คอินที่สามารถถ่ายภาพเดียวได้ทั้ง สะพาน แม่น้ำ และภูเขารูปหัวใจ

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

หลาดคลองแสง หลาดคลองแสงถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบสวนสมรมย์ เนื่องจากภายในสวนมีความหลากหลายของพืชพันธุ์ เช่น ทุเรียน ลองกอง เงาะ มังคุด มะละกอ กล้วย และเลี้ยงไก่ในสวนเดียวกันและมีเทศกาลกินผลไม้ที่ขึ้นชื่อโดยเฉพาะช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน เรียกกันว่า ฤดูทุเรียนหล่น

กิจกรรมการท่องเที่ยว

เทศกาลทุเรียน คลองแสง หลาดคลองแสง หลาดคลองแสงหรือตลาดวิถีชีวิตชุมชนคลองแสงตั้งอยู่บริเวณชุมชนวัดเขาพังเป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เชิงเกษตรและวิถีชีวิตดั้งเดิม เปิดโอกาสให้คนในชุมชนนำของดีมาขายสร้างรายได้ มีการสาธิตการทำอาหารพื้นบ้านที่หารับประทานได้ยาก เช่น การหลามข้าว การทำปลายอก เป็นต้น ตลาด ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนผลไม้และผลไม้ขึ้นชื่อ คือทุเรียนคลองแสง ที่มีรสชาติหอมหวานและเนื้อสัมผัสเฉพาะตัว และมีต้นทุเรียนอายุกว่าร้อยปี นอกจากอาหารแล้วยังมีสินค้าภูมิปัญญา เช่น ของเล่น อีกทั้งยังสามารถปั่นจักรยานเป็นวงรอบเพื่อชมธรรมชาติภายในตลาดได้อีกด้วย

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม