ชุมชนคุณธรรมฯ วัดบางใบไม้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ชุมชนคุณธรรมฯ วัดบางใบไม้ “ในบาง” เป็นชุมชนเก่าแก่กว่า ๒๐๐ ปี ประชาชนส่วนใหญ่ดำรงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมพึ่งพิงแม่น้ำลำคลอง ทำสวน มีพระพุทธรูปหลวงพ่อข้าวสุขเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ในชุมชนมีคลองเล็กคลองน้อย นับร้อยสายเชื่อมโยงกันไหลไปออกแม่น้ำตาปี สองฝั่งคลองมีธรรมชาติร่มรื่น มีต้นจากขึ้นอยู่เรียงรายและลู่ใบเข้าหากันเป็นอุโมงค์ธรรมชาติที่งดงาม วันอาทิตย์จะมีตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้ เป็นตลาดชุมชนเพื่อรองรับการท่องเที่ยว 

หากมาเที่ยวชุมชนคุณธรรมฯ วัดบางใบไม้ สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือการล่องเรือสัมผัสวิถีชีวิตของชาวในบางที่ผูกพันอยู่กับสายน้ำ ชมความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติตลอดแนวสองฝั่งคลอง ลอดอุโมงค์จากที่งดงาม ฟังเรื่องเล่าจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ศึกษาเคล็ดลับภูมิปัญญาท้องถิ่น เลือกซื้ออาหาร ของฝาก ผลิตภัณฑ์ในชุมชน ดื่มด่ำบรรยากาศแห่งมิตรภาพของเจ้าบ้านที่ดีและเสน่ห์ของชุมชน

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดบางใบไม้    วัดบางใบไม้ สร้างขึ้นเมื่อวันที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๓๒๕ ในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นศูนย์กลางทางสังคมของประชาชนในชุมชน วัดบางใบไม้เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าชุมชนแห่งนี้เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มีหลวงพ่อขำ เป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น

ตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้ เป็นตลาดชุมชนมีพลังบวรเป็นแกนหลักในการจัดการ และการมีส่วนร่วมของกลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ตำบลบางใบไม้และคนในชุมชน เปิดทุกวันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. เพื่อให้ประชาชนในชุมชนและใกล้เคียงนำผลิตภัณฑ์ชุมชน อาหารพื้นบ้าน ขนมไทย อาหารทะเล และผักผลไม้ ที่เน้นใช้วัสดุธรรมชาติเป็นภาชนะ อร่อย ราคาถูกมาจำหน่าย สร้างรายได้และความเข้มแข็งให้กับชุมชน เป็นที่พักผ่อนและแหล่งท่องเที่ยวชุมชนแห่งใหม่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี

บ้านโบราณ ๒๐๐ ปี เชื่อว่าสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๒ เป็นเรือนทรงไทยหลังใหญ่สร้างตามแบบเรือนไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นจุดกำเนิดของชุมชนบางใบไม้ มีลักษณะเป็นเรือนปั้นหยาแฝด สร้างโดยใช้วิธีการเข้าสลักไม้ ยึดโครงสร้างของบ้านแทนการตอกตะปู 

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

คลองร้อยสาย คลองร้อยสาย เป็นชื่อเรียกของลำน้ำเล็ก ๆ ที่แตกแขนงมาจากแม่น้ำตาปี ซึ่งมีคลองเล็กคลองน้อยนับร้อยคลอง ประกอบด้วยพื้นที่ ๖ ตำบลของอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ชุมชนเหล่านี้เป็นชุมชนชนบทที่แฝงอยู่ในพื้นที่อำเภอเมือง

อุโมงค์จาก เป็นอุโมงค์ธรรมชาติที่ต้นจากลู่ใบเข้าหากันเป็นซุ้มยาวหลายร้อยเมตร มีความสวยงาม ร่มรื่น ชวนให้น่าบันทึกภาพเก็บไว้เป็นความประทับใจสำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ 

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สวนลุงสงค์ เป็นศูนย์การเรียนรู้การทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนโบราณที่ใช้น้ำมันมะพร้าวในการดูแลสุขภาพตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า และใช้ในการบริโภคเพื่อดูแลสุขภาพ โดยนำน้ำมันมะพร้าวที่สกัดได้มาพัฒนาต่อยอดด้วยนวัตกรรมเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องสำอางค์ ภายใต้   แบรนด์ “Prow Thai by สวนลุงสงค์” เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้และนำกลับไปเป็นของฝากจากชุมชน

กิจกรรมการท่องเที่ยว

ล่องเรือคลองร้อยสาย คลองร้อยสาย ล่องเรือคลองร้อยสายมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและป่าชายเลนสองฝั่งคลองจะเต็มไปด้วยกอจาก ต้นลำพู ต้นลำแพนและโกงกาง มีนกตามธรรมชาติหลากหลายชนิดในสองฝั่งคลองความอุดมสมบูรณ์ของต้นจากทำให้ทางและปลายใบโน้มเข้าหากันทำให้เกิดลักษณะเป็นอุโมงค์จากและสะท้อนบนพื้นน้ำเป็นความงดงามตามธรรมชาติ การล่องเรือมี ๒ แบบ คือล่องแบบระยะสั้นโดยใช้เรือแจว ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ ๒๐-๔๐ นาที ล่องเรือระยะไกลโดยใช้เรือหางยาวใช้เวลาประมาณ ๓๐-๖๐ นาที 

ล่องเรือชมหิ่งห้อย คลองร้อยสาย ล่องเรือชมหิ่งห้อยจะเริ่มที่ประมาณเวลา ๑ ทุ่ม ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและป่าชายเลนทำให้ยังมีหิ่งห้อยตามต้นไม้ชนิดต่าง ๆ เช่น ต้นลำพู ลำแพน ต้นโกงกางและต้นสำลีงา ซึ่งมีกลิ่นอ่อน ๆ ของใบและต้นดอกมีสีขาวมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่ปัจจุบันหาดูได้ยากเนื่องจากเป็นต้นไม้ขนาดเล็ก กลาง ขึ้นสองฝั่งคลองทำให้ กีดขวางการสัญจรทางเรือชาวบ้านจึงโค่นทิ้งเป็นส่วนใหญ่

การสาธิตการสานทางมะพร้าวและ หมาน้ำ ตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้ชุมชนวัดบางใบไม้เป็นชุมชนดั้งเดิมที่ประกอบอาชีพการทำสวนมะพร้าว ในสมัยก่อนการ จัดงานก็จะนิยมใช้ทางมะพร้าวมาขัดสานเป็นลวดลายต่าง ๆ เพื่อประดับสถานที่ให้มีความสวยงาม แต่เนื่องจากความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้มีการเปลี่ยนแปลงไปใช้สิ่งประดิษฐ์อื่น ๆ ในภายหลัง เช่นการใช้ลูกโป่ง ดอกไม้พลาสติก ซึ่งส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อชุมชนได้เห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมจึงได้รื้อฟื้นวิถีชีวิตดั้งเดิมขึ้นมาใช้และถ่ายทอดแก่ผู้สนใจหมาน้ำเป็นภาชนะที่ทำจากใบจากอ่อน (ยอดจาก) ใช้สำหรับตักน้ำ วิธีการทำจะนำใบจากทับซ้อนกันเป็นแถวแล้วงอปลายทั้งสองข้างเข้าหากัน มัดด้วย เชือกก้านจาก หรือต้นคล้าที่มีความเหนียว ปัจจุบันมีการนำหมาน้ำมาเป็นภาชนะใส่อาหาร ประดับตกแต่งสถานที่ 

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมวัดโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร

ชุมชนวัดโพธิ์ประทับช้างตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านสายเก่า เป็นชุมชนที่มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและธรรมชาติที่สวยงามโดยชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และมีวัดโพธิ์ประทับช้างเป็นศูนย์รวมจิตใจ  สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2242 อีกทั้งยังเป็นถิ่นประสูติของสมเด็จพระเจ้าเสือ (สมเด็จพระสรรเพชรญ์ที่ 8)

ชุมชนคุณธรรมวัดโพธิ์ประทับช้าง เป็นชุมชนที่มีทั้งแหล่งท่องเที่ยงเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ที่มีความงดงามของสถาปัตยกรรมสมัยเขาพระเจ้าเสือ ภายในอุโบสถวัดโพธิ์ประทับช้างมีพระพุทธรูป “หลวงพ่อโต” อายุกว่า 300 ปี นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยงเชิงเกษตรและธรรมชาติที่สวยงาม

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดโพธิ์ประทับช้าง
นมัสการหลวงพ่อโต “หลวงพ่อโต” วัดโพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตรหรือ “หลวงพ่อยิ้ม” พระพุทธรูปโบราณอายุกว่า 300 ปี พระประธานประจำอุโบสถวัดโพธิ์ประทับช้าง สร้างโดย “พระเจ้าเสือ” พระมหากษัตริย์สมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อเป็นที่ระลึกถึงมาตุภูมิของพระองค์

โบราณสถาน วัดโพธิ์ประทับช้าง
เป็นโบราณสถานเก่าแก่มาก เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 300 ปี สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยา นักท่องเที่ยวจะได้เห็นวัดโบราณที่ถือว่ายังคงมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เพียงแค่เป็นโบราณสถาน และยิ่งเป็นศิลปะแบบอยุธยาด้วยแล้วสวยงามมาก

ศาลพระเจ้าเสือ
ศาลสมเด็จพระเจ้าเสือ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าเสือ หรือพระสรรเพชญ์ที่ 8 พระมหากษัตริย์องค์ที่ 29 แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีถิ่นประสูติ ณ แผ่นดินเมืองพิจิตร โดยในทุกปีจะมีพิธีบวงสรวง มีการแสดงการชกมวยไทย และการตีไก่ ซึ่งเป็นกีฬาที่ทรงชื่นชอบด้วย

ตลาดดอกเดื่อ
“ตลาดดอกเดื่อ” บ้านโพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร เปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เชิญกันได้นะเจ้าคะ มีอาหารอร่อยให้ท่านเลือกทาน วัดเก่าริมน้ำบรรยากาศยามเย็น “ตลาดดอกเดื่อ ตลาดโบราณ ย้อนตำนานพระเจ้าเสือ”

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

ต้นตะเคียนใหญ่
ที่หน้าวัดยังมีต้นตะเคียนใหญ่ กล่าวกันว่า อายุมากกว่า 250 ปี วัดโดยรอบต้องใช้คนถึง  7 คนในการโอบให้รอบ เป็นที่อาศัยของนกแก้วจำนวนมาก ยังมีนกพิราบมาอาศัยอยู่อีกด้วย   วัดโดยรอบได้ 7 เมตร 60  เซนติเมตร ปัจจุบันได้โค่นล้มลง ชาวบ้านจึงได้เชิญมาไว้เป็นศาลาแม่ย่าตะเคียน

แม่น้ำพิจิตรสายเก่า วัดโพธิ์ประทับช้าง
แม่น้ำพิจิตรสายเก่า ไหลผ่านที่บริเวณวัดโพธิ์ประทับช้าง โดยการนั่งเรือชมหิ่งห้อย เป็นเส้นทางจุดชมหิ่งห้อย มีระยะทาง 1 กิโลเมตร รวมไป – กลับ 2 กิโลเมตร เรือลำ 1 นั่งได้ 10 คน เที่ยวละ 200 บาท จะเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. ไปจนถึงเวลาประมาณ 21.00 น.

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

เที่ยวชมสวนส้มโอ

กิจกรรมการท่องเที่ยว

ล่องเรือชมหิ่งห้อย
ริมแม่น้ำพิจิตรสายเก่าวัดโพธิ์ประทับช้างแม่น้ำพิจิตรสายเก่า ไหลผ่านที่บริเวณวัดโพธิ์ประทับช้าง โดยการนั่งเรือชมหิ่งห้อย เป็นเส้นทางจุดชมหิ่งห้อย มีระยะทาง 1 กิโลเมตร รวมไป – กลับ 2 กิโลเมตร เรือลำ 1 นั่งได้ 10 คน เที่ยวละ 200 บาท จะเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. ไปจนถึงเวลาประมาณ 21.00 น.

ชมนกแก้ว และนกนานาชนิด
ต้นตะเคียนใหญ่วัดโพธิ์ประทับช้างนกแก้วโม่ง นกแก้วกะลิง นกแก้วคอแหวนสีกุหลาบ และนกแขกเต้า นกแก้วในธรรมชาติที่หาดูยากแต่ที่วัดโพธิ์ประทับช้างมีให้ดูตลอดทั้งปี เพราะรอบบริเวณวัดร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่ให้นกแก้วอยู่อาศัย โดยเฉพาะบนต้นตะเคียนทองโบราณ” บริเวณหน้าอุโบสถวัดโพธิ์ประทับช้าง จะพบเห็นนกแก้วมากที่สุด 

การแสดงแสงสีเสียง วันเพ็ญเดือนห้า
วัดโพธิ์ประทับช้าง เปิดการแสดง แสงสีเสียง ย้อนตำนาน พระเจ้าเสือ ในงานเพ็ญเดือนห้า ชิมส้มโอหวาน ย้อนตำนานพระเจ้าเสือ ณ วัดโพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร โดยงานเพ็ญเดือนห้า  ชิมส้มโอหวาน ย้อนตำนานพระเจ้าเสือ จัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน เพื่อเป็นการรำลึกถึงสมเด็จพระสรรเพชญ์ ที่ 8 หรือ พระเจ้าเสือ

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม