อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร

ตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
๑.อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ.๒๕๓๔ ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์ สุโขทัย ศรีสัชนาลัย เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฏแสดงให้เห็นถึงความงดงามอลังการของศิลปกรรมไทยในยุคแรกๆ ผลงานทาง ศิลปกรรมที่เป็นเลิศนี้ปรากฏอยู่เป็นจำนวนมากในอุทยานประวัติศาสตร์ทั้ง ๓ แห่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอุทยานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๔ โบราณสถานที่น่าสนใจในเขตกำแพงเมือง ได้แก่ วัดพระแก้ว วัดพระธาตุ สระมน ศาลพระอิศวร ในส่วนของโบราณสถานที่น่าสนใจในเขตโบราณสถานนอกเมือง หรือ เขตอรัญญิก ได้แก่ วัดพระนอน วัดพระสี่อิริยาบถ วัดพระสิงห์ วัดช้างรอบ เป็นต้น
๒.วันเวลา เปิด/ปิด
ทุกวัน เวลา ๐๘.๓๐ น.- ๑๖.๓๐ น.
๓. ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่
ชาวไทย ๑๐ บาท
ชาวต่างชาติ ๓๐ บาท
๔.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
สำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ๐ ๕๕๗๑ ๑๙๒๑
สำนักงาน ททท. ๐ ๕๕๕๑ ๔๓๔๑-๓
๕.ช่องทางออนไลน์
Facebook : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร
www.finearts.go.th/kamphaengphethistoricalpark
๖.สิ่งอำนวยความสะดวก ห้องน้ำ /ทางลาด /ลานจอดรถ /ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

วัดไชยชุมพลชนะสงคราม จังหวัดกาญจนบุรี

ที่ตั้ง 227 ถนนไชยชุมพล ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
๑.ความโดดเด่น/ความสำคัญ 
วัดไชยชุมพลชนะสงคราม หรือ วัดใต้เป็นวัดพระอารามหลวง สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย วัดตั้งอยู่บนริมแม่นํ้าแคว ทางทิศใต้ เป็นวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ระหว่างสงครามไทยรบกับพม่ามาแต่โบราณ ส่วนมาก ทัพพม่าจะต้องยกทัพมาทางด่านพระเจดีย์ ๓ องค์ ผ่านตรงเข้าจังหวัดกาญจนบุรีแทบทุกครั้งและกองทัพไทย ที่ยกออกไปต่อต้านทัพพม่าก็จะต้องมาพักแรม ประชุมพลที่ตำบลปากแพรก หรือบริเวณอาณาเขตวัดไชยชุมชนะสงคราม แทบทุกครั้ง ที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม มีพระเจดีย์เก่าแก่องค์หนึ่งอยู่ใกล้พระอุโบสถหลังเก่า ตั้งอยู่ริมตลิ่งพระเจดีย์องค์นี้มีชื่อทางโบราณคดี กรมศิลปากรได้จัดขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้ นอกจากความสำคัญ ด้านประวัติศาสตร์แล้ว สิ่งที่โดดเด่นของวัดใต้ ก็คือ ทิพยนาวาอาชาไนย เรือเทวดาอันงดงาม ที่ตั้งโดดเด่นอยู่ภายในวัด ซึ่งสร้างเพื่อใช้เป็นเมรุสำหรับตั้งศพของเจ้าอาวาส องค์เก่า หลังจากพิธีศพเสร็จสิ้นไป เรือเทวดาจึงกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมเยือน
๒.วัน/เวลา/ช่วงเวลา เปิด-ปิด ของสถานที่
เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.
๓.ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่/ค่าบริการต่าง ๆ
๔.เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
0 3462 0926
08 1857 7478
๕.ช่องทางออนไลน์
– Facebook : ชุมชนคุณธรรม วัดไชยชุมพลชนะสงคราม
– Facebook : วัดไชยชุมพลชนะสงคราม วัดใต้
– http://watchaichoompol.com/contact
๖.สิ่งอำนวยความสะดวก
/ ห้องน้ำ / ทางลาด / ที่จอดรถ – จุดบริการนักท่องเที่ยว / ร้านอาหาร

ชุมชนคุณธรรมวัดพะโคะ จังหวัดสงขลา

ชุมชนวัดพะโคะ    เป็นชุมชนโบราณ   โดยปรากฏร่องรอยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ จนถึงปัจจุบัน  และเป็นชุมชนที่เกี่ยวข้องกับประวัติหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด พระอริยะสงฆ์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงที่เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวไทยและชาวต่างประเทศ ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ   ประกอบอาชีพทางการเกษตร  เช่น ทำนา  ทำน้ำตาลโตนด ทำไร่นาสวนผสม เลี้ยงสัตว์ รองลงมาคือรับจ้างทั่วไป  

ชุมชนมีพืชเศรษฐกิจคือต้นตาลโตนดจำนวนมากที่สามารถนำมาสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน เช่น น้ำตาลแว่น,น้ำตาลผง น้ำตาลโตนดเหลว ขนมดู ขนมโก่ ซึ่งเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสงขลา สำหรับเป็นของฝากจากชุมชน  เป็นชุมชนที่มีความเกี่ยวข้องกับประวัติหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ทำให้นำมาจัดการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ  

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดพะโคะ ตั้งอยู่หมู่ที่ ๖ ตำบลชุมพลสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้นเป็นวัดที่มีบทบาทสำคัญในสมัยที่เมืองพัทลุงตั้งอยู่ที่สทิงพระ เป็นศูนย์กลางการปกครองชุมชน และเป็นวัดที่มีความเกี่ยวข้องกับประวัติหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด คือเป็นวัดที่หลวงปู่ทวดเคยจำพรรษาและบูรณปฏิสังขรณ์ วัดพะโคะมีโบราณสถานและโบราณวัตถุประดิษฐานอยู่มากมาย 

วัดดีหลวง ตั้งอยู่ที่ ๒ ตำบลดีหลวง  สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา เป็นวัดที่มีความเกี่ยวข้องกับประวัติหลวงปู่ทวด และเป็นสำนักเรียนใหญ่มาแต่โบราณ  เป็นวัดที่หลวงปู่ทวดเคยบวชเป็นสามเณร และศึกษาวิชาต่าง ๆ ในวัดจนหมดสิ้นและเป็นวัดที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านสถาปัตยกรรม   (หากได้มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดดีหลวงจะช่วยเสริมสร้างบุญบารมีและเป็นมงคลต่อชีวิตในด้าน”ความเฉลียวฉลาด รอบรู้ และประสบความสำเร็จทางการศึกษา)

วัดต้นเลียบ วัดต้นเลียบ ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑ ตำบลดีหลวง  เป็นวัดที่มีความเกี่ยวข้องกับประวัติหลวงปู่ทวด กล่าวคือ เป็นบ้านเกิดและเป็นสถานที่ฝังรกหลวงปู่ทวด มีต้นเลียบซึ่งมีอายุยืนยาวมานานมากกว่า ๕๐๐ กว่าปี ปัจจุบันยังยืนต้นเด่นตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่วมเงาและความร่มรื่นอยู่ภายในวัดต้นเลียบ  ซึ่งถือกันว่าเป็นต้นไม้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์  และเป็นต้นไม้ที่มีความสำคัญกับประวัติหลวงปู่ทวด 

ที่พักสงฆ์นาเปล ตั้งอยู่หมู่ที่ ๗ ตำบลชุมพล เป็นสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับประวัติหลวงปู่ทวด กล่าวคือ เป็นสถานที่ที่พญางูคายลูกแก้วคู่บารมีให้กับหลวงปู่ทวดขณะที่ยังเป็นทารก กล่าวขานกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันเป็นที่พักสงฆ์ขนาดเล็ก ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติท้องทุ่งนาและต้นตาลโตนด มีการสร้างปติมากรรมปูนปั้นจำลองเหตุการณ์เมื่อครั้งพญางูคายลูกแก้วคู่บารมี (หากได้มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดต้นเลียบจะช่วยเสริมสร้างบุญบารมีและเป็นมงคลต่อชีวิตในด้าน “เลี้ยงลูกง่าย เป็นเด็กดี และสุขภาพแข็งแรง”)

โบราณสถานถ้ำเขาคูหา-ตระพังพระ

-โบราณสถานถ้ำเขาคูหาเป็นหลักฐาน ที่แสดงถึงความเป็นชุมชนเก่าแก่สมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๒ ประมาณ ๑,๒๐๐ ปี มาแล้ว โดยการขุดเจาะหินหรือหน้าผาเข้าไปเป็นถ้ำ เพื่อใช้สถานที่เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาฮินดู ซึ่งมีอยู่ ๒ ถ้ำติดกัน ถ้ำที่ ๑ อยู่ทางด้านทิศเหนือถ้ำที่ ๒ อยู่ทางด้านทิศใต้

-โบราณสถานตระพังพระ เป็นสระน้ำขนาดใหญ่มีเกาะอยู่ตรงกลางตระพัง ขุดขึ้นเพื่อนำน้ำจากตระพังพระนี้ไปใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาฮินดู ในถ้ำคูหา ต่อมาบริเวณเกาะกลางตระพังแห่งนี้ พุทธศาสนิกชนยังได้ใช้เป็นสถานที่อุปสมบทพระภิกษุที่เรียกว่า     “อุทกเสมา” ที่มีการกำหนดอาณาเขตไว้ว่า “ในการวักน้ำทั้งสี่ด้านต้องไม่ให้ถึงตลิ่งก็ถือว่าเป็นเขตทำสังฆกรรมได้” เพราะฉะนั้นสถานที่แห่งนี้จึงถือได้ว่าเป็นศาสนสถานที่สำคัญของสองศาสนา 

ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช ตำบลชุมพล
ตั้งอยู่ที่วัดนางเหล้า หมู่ที่ ๔ ตำบลชุมพล จัดตั้งขึ้นตามโครงการ“ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช”ของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา และเพื่อเป็นการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นให้เป็นแหล่งรวบรวมมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยการจัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการ ในรูปของพิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นเพื่อให้เยาวชนและประชนเกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความตระหนักรักและหวงแหนในมรดกภูมิปัญญาของท้องถิ่น ภายในจัดแสดงวิถีชีวิตโหนดนา และพระราชประวัติพระมหากษัตริย์ราชวงจักรี และห้องสมุดสำหรับศึกษาค้นคว้า

พิพิธภัณฑ์หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด พิพิธภัณฑ์หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หรือ พิพิธภัณฑ์สมเด็จเจ้า  พะโคะ ตั้งอยู่ที่วัดพะโคะ หมู่ที่ ๖ ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เป็นสถานที่ จัดแสดงชีวประวัติประวัติหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดหรือสมเด็จเจ้าพะโคะทั้งหมด และเก็บรวบรวมวัตถุโบราณที่แสดงถึงวิถีชีวิตของประชาชนในคาบสมุทรสทิงพระ

กลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์น้ำตาลโตนด ตั้งอยู่หมู่ที่ ๕ ตำบลชุมพล  จัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๔ ปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ ๓๐ คน มีภารกิจหลักในการแปรรูปน้ำตาลโตนดเป็นผลิตภัณฑ์น้ำตาลแว่น ภายใต้ตราสัญลักษณ์ “ดาวราย” จนได้รับการยอมรับให้เป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือโอท็อป ระดับ ๕ ดาวของจังหวัดสงขลา ภายในกลุ่มมีการจัดและสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น น้ำตาลแว่น น้ำตาลโตนดผง และผลิตภัณฑ์จากตาลโตนด

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

สวนครูโรจน์ ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑ ตำบลชุมพล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ (ชมวิวและถ่ายรูป) ที่ตั้งอยู่ท่ามกลาง ท้องทุ่งนาและทุ่งตาลโตนด เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตการทำน้ำตาลโตนด และการทำนาโดยจัดปรับเปลี่ยน ให้สอดคล้องกับฤดูกาลต่าง ๆ ที่เป็นไปตามธรรมชาติเพื่อให้มีการท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล รวมถึง ได้ร่วมกิจกรรมและสัมผัสวิถีชีวิตตามฤดูกาลต่าง ๆ การสัมผัสภูมิปัญญาพื้นบ้านต่าง ๆ   รวมถึงได้จัดให้มีอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการ ด้วย

นายายเอิม ตั้งอยู่หมู่ที่ ๗ ตำบลชุมพล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ (ชมวิวและถ่ายรูป) ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของท้องทุ่งนาและทุ่งตาลโตนด เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติของท้องทุ่งนาและป่าตาลโตนด และอาหารพื้นบ้าน และเครื่องดื่มที่มีไว้บริการตลอดเวลา

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สวนผู้ใหญ่เอ็ม ตั้งอยู่หมู่ที่ ๕ ตำบลชุมพล เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงการเกษตร ประเภทศูนย์การเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีการจัดทำสวนมะพร้าวที่ประสบความสำเร็จเป็นแบบอย่างในการทำสวน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะสวนมะพร้าวน้ำหอม สามารถสร้างรายได้ให้ตลอดปี จัดเป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาดูงาน ได้ตลอดฤดูกาล (วิทยากร: นายอภิชาติ  ยุพยงค์)

สวนลุงโรจน์ (โคกหนำ หนองนกเภา) ตั้งอยู่หมู่ที่ ๒ ตำบลดีหลวง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงการเกษตร ประเภทไร่นาสวนผสม รวมถึงการทำนา และการทำสวนสมรม มีผลไม้ เช่น ฝรั่ง ชมพู่ แก้วมังกร กล้วย และพืชผักสวนครัว ต่าง ๆ เช่น มะเขือเทศ ฟักแฟง แตงโม ถั่วฝักยาว พริกขี้หนู ตามฤดูกาล ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสตลอดปี  โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตามฤดูกาล สามารถจัดเป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาดูงานได้ตลอดฤดูกาล (วิทยากร : นายโรจน์  คชสาร)

กิจกรรมการท่องเที่ยว

การร่วมหยอดน้ำตาลแว่น กลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์น้ำตาลโตนด นักท่องเที่ยวสามารถร่วมกิจกรรมการกระบวนการทำน้ำตาลแว่น /ทำน้ำตาลผง ได้ที่กลุ่มกลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์น้ำตาลโตนด ทุกขั้นตอน กระบวนการผลิต

การนั่งรถท้องถิ่นชมสถานที่ต่าง ๆ
-โบราณสถานถ้ำเขาคูหา-ตระพังพระ
– ที่พักสงฆ์นาเปล
– วัดต้นเลียบ
– วัดดีหลวง
– วัดพะโคะ นักท่องเที่ยวร่วมสนุกและตื่นเต้นกับการสัมผัสธรรมชาติกับกิจกรรมนั่งรถท้องถิ่นชมสถานที่ต่าง ๆ รอบ ๆ ชุมชนการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในชุมชน เช่น รถรางนำเที่ยว และรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง (ซาเล้ง)

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมวัดโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร

ชุมชนวัดโพธิ์ประทับช้างตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านสายเก่า เป็นชุมชนที่มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและธรรมชาติที่สวยงามโดยชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และมีวัดโพธิ์ประทับช้างเป็นศูนย์รวมจิตใจ  สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2242 อีกทั้งยังเป็นถิ่นประสูติของสมเด็จพระเจ้าเสือ (สมเด็จพระสรรเพชรญ์ที่ 8)

ชุมชนคุณธรรมวัดโพธิ์ประทับช้าง เป็นชุมชนที่มีทั้งแหล่งท่องเที่ยงเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ที่มีความงดงามของสถาปัตยกรรมสมัยเขาพระเจ้าเสือ ภายในอุโบสถวัดโพธิ์ประทับช้างมีพระพุทธรูป “หลวงพ่อโต” อายุกว่า 300 ปี นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยงเชิงเกษตรและธรรมชาติที่สวยงาม

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดโพธิ์ประทับช้าง
นมัสการหลวงพ่อโต “หลวงพ่อโต” วัดโพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตรหรือ “หลวงพ่อยิ้ม” พระพุทธรูปโบราณอายุกว่า 300 ปี พระประธานประจำอุโบสถวัดโพธิ์ประทับช้าง สร้างโดย “พระเจ้าเสือ” พระมหากษัตริย์สมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อเป็นที่ระลึกถึงมาตุภูมิของพระองค์

โบราณสถาน วัดโพธิ์ประทับช้าง
เป็นโบราณสถานเก่าแก่มาก เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 300 ปี สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยา นักท่องเที่ยวจะได้เห็นวัดโบราณที่ถือว่ายังคงมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เพียงแค่เป็นโบราณสถาน และยิ่งเป็นศิลปะแบบอยุธยาด้วยแล้วสวยงามมาก

ศาลพระเจ้าเสือ
ศาลสมเด็จพระเจ้าเสือ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าเสือ หรือพระสรรเพชญ์ที่ 8 พระมหากษัตริย์องค์ที่ 29 แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีถิ่นประสูติ ณ แผ่นดินเมืองพิจิตร โดยในทุกปีจะมีพิธีบวงสรวง มีการแสดงการชกมวยไทย และการตีไก่ ซึ่งเป็นกีฬาที่ทรงชื่นชอบด้วย

ตลาดดอกเดื่อ
“ตลาดดอกเดื่อ” บ้านโพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร เปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เชิญกันได้นะเจ้าคะ มีอาหารอร่อยให้ท่านเลือกทาน วัดเก่าริมน้ำบรรยากาศยามเย็น “ตลาดดอกเดื่อ ตลาดโบราณ ย้อนตำนานพระเจ้าเสือ”

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

ต้นตะเคียนใหญ่
ที่หน้าวัดยังมีต้นตะเคียนใหญ่ กล่าวกันว่า อายุมากกว่า 250 ปี วัดโดยรอบต้องใช้คนถึง  7 คนในการโอบให้รอบ เป็นที่อาศัยของนกแก้วจำนวนมาก ยังมีนกพิราบมาอาศัยอยู่อีกด้วย   วัดโดยรอบได้ 7 เมตร 60  เซนติเมตร ปัจจุบันได้โค่นล้มลง ชาวบ้านจึงได้เชิญมาไว้เป็นศาลาแม่ย่าตะเคียน

แม่น้ำพิจิตรสายเก่า วัดโพธิ์ประทับช้าง
แม่น้ำพิจิตรสายเก่า ไหลผ่านที่บริเวณวัดโพธิ์ประทับช้าง โดยการนั่งเรือชมหิ่งห้อย เป็นเส้นทางจุดชมหิ่งห้อย มีระยะทาง 1 กิโลเมตร รวมไป – กลับ 2 กิโลเมตร เรือลำ 1 นั่งได้ 10 คน เที่ยวละ 200 บาท จะเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. ไปจนถึงเวลาประมาณ 21.00 น.

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

เที่ยวชมสวนส้มโอ

กิจกรรมการท่องเที่ยว

ล่องเรือชมหิ่งห้อย
ริมแม่น้ำพิจิตรสายเก่าวัดโพธิ์ประทับช้างแม่น้ำพิจิตรสายเก่า ไหลผ่านที่บริเวณวัดโพธิ์ประทับช้าง โดยการนั่งเรือชมหิ่งห้อย เป็นเส้นทางจุดชมหิ่งห้อย มีระยะทาง 1 กิโลเมตร รวมไป – กลับ 2 กิโลเมตร เรือลำ 1 นั่งได้ 10 คน เที่ยวละ 200 บาท จะเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. ไปจนถึงเวลาประมาณ 21.00 น.

ชมนกแก้ว และนกนานาชนิด
ต้นตะเคียนใหญ่วัดโพธิ์ประทับช้างนกแก้วโม่ง นกแก้วกะลิง นกแก้วคอแหวนสีกุหลาบ และนกแขกเต้า นกแก้วในธรรมชาติที่หาดูยากแต่ที่วัดโพธิ์ประทับช้างมีให้ดูตลอดทั้งปี เพราะรอบบริเวณวัดร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่ให้นกแก้วอยู่อาศัย โดยเฉพาะบนต้นตะเคียนทองโบราณ” บริเวณหน้าอุโบสถวัดโพธิ์ประทับช้าง จะพบเห็นนกแก้วมากที่สุด 

การแสดงแสงสีเสียง วันเพ็ญเดือนห้า
วัดโพธิ์ประทับช้าง เปิดการแสดง แสงสีเสียง ย้อนตำนาน พระเจ้าเสือ ในงานเพ็ญเดือนห้า ชิมส้มโอหวาน ย้อนตำนานพระเจ้าเสือ ณ วัดโพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร โดยงานเพ็ญเดือนห้า  ชิมส้มโอหวาน ย้อนตำนานพระเจ้าเสือ จัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน เพื่อเป็นการรำลึกถึงสมเด็จพระสรรเพชญ์ ที่ 8 หรือ พระเจ้าเสือ

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม

ชุมชนคุณธรรมวัดอัมพวัน จังหวัดตาก

ชุมชนคุณธรรมต้นแบบฯ วัดอัมพวัน ตำบลป่ามะม่วง อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก มีสภาพสังคม แบบชนบททั่วไป ลักษณะการตั้งบ้านเรือนจะตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง และลำห้วยแม่ท้อมีศาสนาเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน และวัฒนธรรมอันดีงาม ตามแนววิถีชาวพุทธ ดำรงมั่นในพระพุทธศาสนา และสืบทอดวิถีวัฒนธรรมท้องถิ่นมาโดยตลอด และชาวบ้านอยู่ร่วมกันแบบญาติพี่น้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ดำรงชีวิตด้วยความสามัคคี เป็นปึกแผ่นเหนียวแน่น ทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยความสุจริต มีคุณธรรม ตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พออยู่ พอกิน มีภูมิคุ้มกันในตัวเอง ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมรับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน มีน้ำใจและอยู่ร่วมกันด้วยความผาสุกเสมอมาในทุก ๆ วันสำคัญทางศาสนา ชาวบ้านและนักเรียนในบริเวณใกล้เคียงมาร่วมกิจกรรมที่วัดอัมพวันอยู่สม่ำเสมอ 

เป็นชุมชนที่ยังคงดำรงมั่นในพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมอันดีงาม ตามแนววิถีชาวพุทธ ที่สำคัญยังคงสืบทอดวิถีวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นชุมชนที่มีความโดดเด่นทางวัฒนธรรม มีวัดอัมพวันเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน และมีผู้นำหมู่บ้านที่เข้มแข็ง

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

วัดอัมพวัน
วัดอัมพวัน เป็นวัดเก่าแก่ที่เป็นศูนย์กลางรวมจิตใจของคนในชุมชน ภายในวัดมี พระอุโบสถเก่าแก่ ประดิษฐานพระประธานที่มีอายุราวสมัยรัชกาลที่ ๕ หรือประมาณ ๑๒๙ ปี โดยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๔โดยมีพระมหาสมบัติ ภทฺทปัญโญ รองเจ้าคณะอำเภอเมืองตาก เจ้าอาวาสวัดอัมพวันเป็นที่เคารพศรัทธาของคนในชุมชนบ้านป่ามะม่วง

ศาลหลัก เมืองเก่า
ศาลหลักเมืองตาก ตั้งอยู่ที่บ้านปากร้อง หมู่ที่ ๖ ตำบลป่ามะม่วง อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก สันนิษฐานว่า
สร้างขึ้นในสมัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้สร้างเสาหลักเมืองไว้เสาหลักเมืองมีลักษณะของเป็นเสายืนต้น ด้านบนเหลาหรือกลึงแหลมมน คล้าย ๆ แบบรูปศิวลึงค์ในแบบศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่นักท่องเที่ยวเมื่อมาถึงจังหวัดตาก ต้องแวะสักการะขอพร

ศาลหลักเมือง สี่มหาราช
ติดถนนพหลโยธินด้านขวา เชิงสะพานกิตติขจรก่อนเข้าเมืองตาก ในปัจจุบันอยู่ที่เชิงสะพานกิตติขจร เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของอดีตมหาราช ทั้งสี่พระองค์ จึงได้มีการจัดสร้างศาลหลักเมืองแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕ และกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจังหวัดตาก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

วัดดอยข่อย เขาแก้ว
วัดดอยข่อยเขาแก้ว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “วัดพระเจ้าตากสิน” เป็นวัดที่มีความเกี่ยวข้องกับพระราชประวัติในการทำศึกสงคราม โดยครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ตั้งทัพหลวงในยุคสมัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ด้วยมีทำเลที่เหมาะแก่การตั้งทัพ

วัดกลางสวนดอกไม้
วัดกลางสวนดอกไม้ ปูชนียสถาน ที่สำคัญประจำวัดคือเจดีย์ เดิมทีเป็นที่ประดิษฐานลูกแก้วเสี่ยงทายพระบารมี ที่องค์พระเจ้าตากสินได้เสี่ยงที่วัดดอยข่อยเขาแก้ว มีลูกแก้วอยู่ ๒ ลูกด้วยกัน ลูกหนึ่งอยู่ที่วัดดอยข่อยเขาแก้ว ส่วนอีกลูกหนึ่งขอนำมาประดิษฐาน ณ วัดกลางสวนดอกไม้แห่งนี้ที่ยอดเจดีย์ แต่เมื่อเจดีย์ผุพังลง ลูกแก้วก็หายไป พอเดินผ่าน ร่มไม้มาตามทางจะทะลุมาถึงหอระฆัง และอุโบสถวัดกลางสวนดอกไม้ ตกแต่งด้วยกระจกสีด้านนอกสวยงามตระการตา

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

สะพาน สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี
สะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี หรือที่เรียกว่า “สะพานแขวน” สร้างเมื่อ พุทธศักราช 2525 โดยองค์การ บริหารส่วนจังหวัดตาก เพื่อสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ขนาดกว้าง 2.50 ม. ยาว 700 ม. ฐานรากและเสาเป็นคอนกรีต จำนวน 5 จุด พื้นทำด้วยไม้โยงยึดด้วยลวดสลิงขนาดใหญ่ ซึ่งในอดีตสามารถใช้รถจักรยาน และรถจักรยานยนต์สัญจรไปมาได้ แต่ปัจจุบันเป็นสะพานสำหรับเดินชมทิวทัศน์แม่น้ำปิง

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

แปลงผักสวนครัวเศรษฐกิจพอเพียง
แปลงผักสวนครัวเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนชุมชนบ้านป่ามะม่วง ตั้งอยู่ หมู่ที่ ๒ ตำบลป่ามะม่วง เป็นโรงเรียนในชุมชนคุณธรรมฯ วัดอัมพวัน ที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนชุมชนคุณธรรม โดยมีผู้บริหารที่มีมุมมองในการพัฒนาทั้งด้านการศึกษาควบคู่ไปกับคุณธรรม โดยยึดหลัก วินัย พอเพียง สุจริต จิตอาสา ใช้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ให้นักเรียนได้เรียนรู้การปลูกผัก นำไปแจกจ่ายให้กับคนในชุมชนและสามารถนำไปจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้อีกทางหนึ่งด้วย

กิจกรรมการท่องเที่ยว

กราบพระพุทธรูปในอุโบสถวัดอัมพวัน
วัดอัมพวันมีพระอุโบสถเก่าแก่ ประดิษฐานพระประธาน ที่มีอายุราวสมัยรัชกาลที่ ๕ โดยได้รับพระราชทานวิสุคามสีมา เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๔

กราบสักการะศาลหลักเมืองตาก
ศาลหลักเมืองตาก (ศาลเก่า) ตั้งอยู่ที่บ้านปากร้อง หมู่ที่ 6 ตำบลป่ามะม่วง อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก สันนิษฐานว่า สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งตอนนั้นเกาะตะเภายังเป็นเมืองหน้าด่านอยู่ ป่ามะม่วง ระหว่างที่พักได้พิจารณาเห็นสมควรตั้งบ้านป่ามะม่วงเป็นเมืองหน้าด่าน เพราะจะทำให้ได้เปรียบข้าศึก เหมาะสำหรับทั้งรุกและรับ ประกอบกับมีทางหนีทีไล่ที่ดีจึงมีรับสั่งให้ฝังหลักเมืองทันทีตั้งแต่บัดนั้น และยังปรากฏให้เห็นอยู่ในขณะนี้

ชมโบราณสถานวัดดอยข่อยเขาแก้ว
วัดดอยข่อยเขาแก้ว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “วัดพระเจ้าตากสิน” เป็นวัดที่มีความเกี่ยวข้องกับพระราชประวัติในการทำศึกสงคราม โดยครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ตั้งทัพหลวงในยุคสมัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ด้วยมีทำเลชัยภูมิที่เหมาะแก่การตั้งทัพ สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดแห่งนี้ ได้แก่ พระอุโบสถ ลักษณะเป็นอาคาร ก่ออิฐถือปูนแบบ ศิลปะอยุธยา ตอนกลางถึงตอนปลายมีลานประทักษิณ และกำแพงแก้วล้อมรอบ ฐานก่ออิฐของวิหารพลับพลาที่ประทับ พลับพลาสำหรับข้าราชการตามเสด็จ พระเจดีย์ราย ๓ องค์ ศาลเสด็จแม่นกเอี้ยง และศาลเสด็จพ่อไหฮอง เป็นศาลที่ตั้งขึ้น เพื่อบูชาพระราชมารดา และพระราชบิดา ในสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีมหาราช บ่อหมักปูนโบราณ ซึ่งสันนิษฐานว่าใช้หมักปูน เพื่อทำปูนปั้นประดับพระอุโบสถและวิหาร วัดดอยข่อยเขาแก้ว ได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๕๒ ตอนที่ ๗๕ วันที่ ๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๘

สักการะศาลหลักเมือง 4 มหาราช
ศาลหลักเมืองสี่มหาราช ติดถนนพหลโยธินด้านขวา เชิงสะพานกิตติขจรก่อนเข้าเมืองตาก เป็นสถานที่ที่บ่งบอกถึงความสำคัญของทำเลที่ตั้งจังหวัดตาก ที่มีความเหมาะสมในการวางแผนเตรียมการรบมาหลายยุคสมัยตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรี ศาลหลักเมือง ๔ มหาราช จึงเป็นสถานที่ที่จะพาเราย้อนกลับไปสู่ความรุ่งเรือง แห่งตำนานมหาราชทั้งสี่ของดินแดนไทย อันสืบเนื่องจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เมืองตากเป็นเมืองที่มีพระมหาราชเข้าในอดีต เสด็จมาชุมนุมกองทัพถึง ๔ พระองค์ด้วยกัน

สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดกลางสวนดอกไม้
วัดกลางสวนดอกไม้ มีสภาพแวดล้อมโดยรอบวัดเป็นหมู่บ้าน และภูเขา สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2459 บางครั้งเรียกกันว่า วัดกลางสวนดอก หรือ วัดสวนดอกไม้ วัดนี้มีเจดีย์เก่าเรียกกันว่าเจดีย์เสี่ยงทาย จากการกล่าวขานกันว่าพระเจ้าตากสิน เมื่อครั้งที่ได้มาเป็นเจ้าเมืองตาก ได้สร้างขึ้นไว้ก่อนแล้วต่อมาชำรุด และได้มีการบูรณะครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2470 ภายในวัดมีอาคารเสนาสนะที่สำคัญ ได้แก่ วิหาร สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2490 ศาลาการเปรียญ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2522 หอสวดมนต์ เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น สร้างเมื่อปี พ.ศ.2517 กุฎีสงฆ์เป็นอาคารไม้ จำนวน 1 หลัง หอฉัน สร้างเมื่อปี พ.ศ.2514 และมีหอระฆัง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2520

ชมการสาธิตการทำเมี่ยงโบราณ
เนื่องจากจังหวัดตากของเรามีประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง ซึ่งทำให้ในแต่ละปีมีการใช้กะลามะพร้าวเป็นจำนวนมาก ในการทำกระทง จึงได้มีการนำเนื้อมะพร้าวมาทำเป็นไส้เมี่ยง ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาอย่างหนึ่ง ที่โด่งดังของจังหวัดตาก จึงเป็นอาหารทานเล่นที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของชาวจังหวัดตาก ทำมาจากมะพร้าวแก่ ถั่วลิสง น้ำตาลทราย เกลือ กระเทียมขิงแก่ ใบมะกรูด และงาขาว มาขูดเป็นเส้นตั้งบนกระทะ ใส่น้ำมันมะพร้าว ใช้ความร้อนปานกลางเคี่ยวให้เป็นสีเหลืองแล้วจึงใส่น้ำตาลทราย เกลือ รอจนน้ำตาลทรายละลายจากนั้นใส่ส่วนผสมกระเทียม ถั่วลิสง ขิงแก่ และใบมะกรูดเคี่ยวไปจนมะพร้าวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน

ชิมก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นป้าคำบ้านป่ามะม่วง
เป็นก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นโบราณสูตรเด็ด หมักด้วยสมุนไพร และเครื่องเทศ ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ รสชาติกลมกล่อมมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศและสมุนไพร ในราคาย่อมเยา มีปริมาณที่คุ้มค่าเกินราคา

ชมสะพานแขวนสมโภชน์รัตนโกสินทร์ 200 ปี

เป็นสะพานที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์มีอายุครบ 200 ปี สร้างเมื่อ พ.ศ. 2525 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดตาก อาจกล่าวได้ว่าจุดชมวิวแม่น้ำปิงที่ดีที่สุดของจังหวัดตากคือมุมมองจากบนสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีที่ใคร ๆ พากันเรียกว่า “สะพานแขวน” แห่งนี้ ที่นี่สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. 2525 ตัวสะพานมีขนาด กว้าง 2.50 ม. ยาว 700 ม. ฐานรากและเสาเป็นคอนกรีต จำนวน 5 จุด พื้นทำด้วยไม้โยง และยึดด้วยลวดสลิงขนาดใหญ่ บนสะพานมีระยะทางยาวประมาณ 400 เมตร ในตอนกลางคืนนั้นจะมีการประดับไฟสวยงาม ทำให้ตัวสะพานแลดูสว่างไสวโดดเด่นเหนือผืนน้ำสีเข้ม นอกจากนี้บริเวณโดยรอบสะพานยังมีสวนเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่มีภูมิทัศน์สวยงาม และเป็นสถานที่ที่จังหวัดตากใช้จัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวง

ที่มา กระทรวงวัฒนธรรม